ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง การประกาศถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจากองค์การอนามัยโลก (WHO) สร้างคลื่นสะเทือนไปทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ เป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดด้วยเม็ดเงินกว่าพันล้านดอลลาร์ในปี 2022-2023
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง WHO กับจีน และข้อกังขาเรื่องความเป็นธรรมในการจ่ายเงินสนับสนุน จากข้อมูลใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนทางการเงินขององค์การที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของประชากรโลกแห่งนี้ และการถอนตัวของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบอย่างไรต่องบประมาณกว่า 81% ที่มาจากการบริจาคโดยสมัครใจ
องค์การอนามัยโลก (WHO) หน่วยงานของสหประชาชาติที่มีหน้าที่ดูแลด้านสาธารณสุขทั่วโลก โดยมีหน้าที่ประสานงานการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ต่างๆ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีทั่วโลก เงินทุนของ WHO มาจากเงินบริจาคของประเทศสมาชิกและเงินบริจาคโดยสมัครใจจากองค์กรและรัฐบาลต่างๆ
เมื่อสหรัฐฯ เตรียมถอนตัวออกจาก WHO ภายใน 1 ปี คำถามที่ตามมาก็คือ ผลกระทบต่องบประมาณขององค์กรเป็นอย่างไร รายละเอียดการบริจาคโดยสมัครใจให้กับงบประมาณขององค์การอนามัยโลกในช่วงปี 2022-23 ซึ่งการบริจาคเหล่านี้แตกต่างจากการบริจาคที่ได้รับการประเมินซึ่งเป็นการชำระเงินภาคบังคับที่ประเทศสมาชิกของ WHO จำเป็นต้องชำระ
เงินบริจาคโดยสมัครใจคิดเป็น81%ของเงินทุนทั้งหมด ในขณะที่เงินบริจาคที่ได้รับการประเมินคิดเป็น12%ส่วนที่เหลืออีก 7% มาจากแหล่งอื่น
จีนมีส่วนสนับสนุนเท่าใดในปี 2022-2023
แม้จะไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนในคำสั่งฝ่ายบริหาร แต่ข้อตำหนิประการหนึ่งของทรัมป์ต่อ WHO ก็คือความสัมพันธ์กับจีน
เงินบริจาคโดยสมัครใจของจีนในปี 2022-23 มีจำนวนรวม 41 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 0.6% ของเงินทุนบริจาคโดยสมัครใจทั้งหมด เงินบริจาคโดยสมัครใจมักถูกกำหนดไว้สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ ทำให้ความยืดหยุ่นของ WHO ในการใช้เงินบริจาคมีจำกัด
เมื่อหันมาพิจารณาเงินสนับสนุนที่ประเมินแล้วจีนจำเป็นต้องจ่ายเงิน115 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2022-23 ในขณะที่สหรัฐฯ จำเป็นต้องจ่ายเงิน 219 ล้านเหรียญสหรัฐ ข้อโต้แย้งของทรัมป์ต่อการจ่ายเงินเหล่านี้ก็คือ ประชากรของจีนมีจำนวนมากกว่าของอเมริกาหลายเท่า