ตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทางการสหรัฐอเมริกาได้ประกาศระงับเงินความช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท ที่ออกโดย USAID (United States Agency for International Development) ชั่วคราว เพื่อประเมินและปรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศใหม่
ประกาศดังกล่าวมีผลกับโครงการทั้งหมดที่สนับสนุนโดย USAID/M/OAA/REFS ซึ่งรวมถึงโครงการด้านความยืดหยุ่น สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหาร เจ้าหน้าที่ข้อตกลงของ USAID ได้ออกคำสั่งให้ผู้รับรางวัลระงับการดำเนินการทันที และห้ามดำเนินการต่อจนกว่าจะได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ดำเนินการใหม่
นอกจากนี้ ยังมีการขอให้องค์กรที่ได้รับรางวัลส่งการรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรว่ากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ DEIA (Diversity, Equity, Inclusion, and Accessibility) ได้หยุดลงอย่างสมบูรณ์
การระงับโครงการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประเมินนโยบายช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาใหม่ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโครงการช่วยเหลือในหลายประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ คำของบประมาณประจำปีงบประมาณ 2025 ของประธานาธิบดีสำหรับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานเพื่อการพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) อยู่ที่ 42,800 ล้านดอลลาร์ ราว 1,519,400 ล้านล้านบาท
สำหรับความช่วยเหลือต่างประเทศ ซึ่งสูงกว่าประมาณการสำหรับปีงบประมาณ 2023 411.5 ล้านดอลลาร์ (1 เปอร์เซ็นต์) ยอดรวมนี้รวมถึง 28,300 ล้านดอลลาร์สำหรับความช่วยเหลือต่างประเทศสำหรับบัญชีที่ USAID บริหารจัดการอย่างเต็มรูปแบบและบางส่วน
ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือจาก USAID ในปี 2538 และในปี 2546 USAID ได้เปิดสำนักงานภูมิภาคในกรุงเทพฯ เพื่อให้บริการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก USAID ใช้ความเชี่ยวชาญของไทยในการทำงานด้านปัญหาข้ามพรมแดนที่ประเทศไทยและภูมิภาคกังวล
กิจกรรมส่วนใหญ่ของ USAIDในประเทศไทยมุ่งแก้ปัญหาข้ามชาติผ่านโครงการระดับภูมิภาค เช่น การสนับสนุนสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ฟอรัมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง และฟอรัมระดับภูมิภาคอื่นๆ ความพยายามเหล่านี้นำไปสู่การบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่มากขึ้นและความร่วมมือกันในประเด็นที่ทั้งสหรัฐอเมริกาและไทยมีผลประโยชน์ร่วมกัน
ทรัมป์ขู่ลงโทษเจ้าหน้าที่ USAID เมินต่อการระงับความช่วยเหลือต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ USAID เข้าร่วมเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการจัดสรรความช่วยเหลือของรัฐบาลกลางทั่วโลกให้สอดคล้องกับนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน
รัฐบาลของเขาขู่ว่าจะดำเนินการทางวินัย หากเจ้าหน้าที่คนใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยออกคำสั่งเพียงไม่กี่วันหลังจากทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี