"สธ."รุกติดตั้งโซลาร์เซลล์ 1,252 แห่ง มุ่งลดภาวะโลกร้อน
"สธ."รุกติดตั้งโซลาร์เซลล์ 1,252 แห่ง มุ่งลดภาวะโลกร้อน เผยช่วยประหยัดค่าไฟได้กว่า 322 ล้านบาทต่อปี หลังผลวิจัยยพบว่าโรงพยาบาลในสังกัดมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 9% ของทั้งประเทศ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลระดับต่างๆข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 มีหน่วยบริการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์แล้ว 1,252 แห่ง
จากทั้งหมด 1,857 แห่ง มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 62,245.80 กิโลวัตต์ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 35,420 tCO2-eq /ปี ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 322 ล้านบาท/ปี
ทั้งนี้ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (Climate Change) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งจากโรคต่างๆ และภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น
โดยผลการศึกษาในปี พ.ศ. 2565 พบว่าโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วน 9% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งประเทศ หรือ 33,766,720 tCO2-eq /ปี
ซึ่งกิจกรรมที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกสูงสุด คือ การเดินทางมาโรงพยาบาลของผู้ป่วยและญาติ และการใช้ไฟฟ้าในโรงพยาบาล โดยข้อมูลการจัดการพลังงาน ปี 2564 พบว่า มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าถึง 1,217 ล้านกิโลวัตต์/ปี คิดเป็นค่าไฟฟ้าประมาณ 4,730 ล้านบาท/ปี
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงจัดทำแผนเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย Smart Energy and Climate Action (SECA) : พลังงานอัจฉริยะและการดำเนินการที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ โดยให้ทุกหน่วยงานในสังกัดใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการสูญเสียพลังงานอย่างไร้ประโยชน์
และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ผ่านกลไกการทำงาน 8 ด้าน คือ
- การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อการประหยัดพลังงาน)
- ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า (EV)
- อาคารอนุรักษ์พลังงาน (Green Building)
- การเพิ่มพื้นที่สีเขียว
- เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ (ลดการเดินทาง, Telemedicine)
- เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการมูลฝอย,น้ำเสีย
- กิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน