ปัจจุบันโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราที่เปิดให้บริการแล้วมีทั้งหมด 51 แห่ง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป้าหมายด้านความยั่งยืนของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา จะเน้นใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1. การได้รับการรับรอง Global Sustainable Tourism Council (GSTC) ในทุกโรงแรมและรีสอร์ทภายในปี พ.ศ. 2568 และการเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
2. การลดการปล่อยพลังงาน ขยะ น้ำ และก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2572
3. การบรรลุการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่าเราให้ความสำคัญกับการกำหนดนโยบายและการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล
เซ็นทาราจึงนำหลักการด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมมาเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงานและให้บริการแขกผู้เข้าพัก เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนและสร้างประโยชน์ในระยะยาวให้กับทุกฝ่าย ทั้งนักลงทุน ลูกค้า ชุมชนที่โรงแรมตั้งอยู่ และคนรุ่นหลังต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ไม่เพียงแต่การดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับโรงแรมที่เซ็นทาราเปิดให้บริการอยู่แล้ว ในส่วนของโรงแรมใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการก็จะให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ล่าสุดอย่างโรงแรมเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ ที่เพิ่งเปิดให้บริการ ก็มีการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการด้าน Food Waste นำอาหารเหลือทิ้งมาทำปุ๋ย การรีไซเคิลโดยใช้ขวดแก้วแทนขวดพาสติก การทำโซล่ารูฟ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในห้องพัก ซึ่งมีกำลังการผลิตได้ถึง 2.7 เมกกะวัตต์ต่อวัน
ทั้งนี้ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ได้รับการติดอันดับธุรกิจที่มีความยั่งยืนในรายงาน Sustainability Yearbook 2024
โดย S&P Global ซึ่งเซ็นทาราเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนไทยที่เป็น Industry Mover หรือ บริษัทที่มีพัฒนาการโดดเด่น มีคะแนนการประเมินความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หรือ คิดเป็นอย่างน้อย 5% เมื่อเทียบกับคะแนนในรายงาน Sustainability Yearbook 2023
โดย S&P Global ได้มีการประเมินความยั่งยืนขององค์กรทั่วโลก (Corporate Sustainability Assessment: CSA) ซึ่งเซ็นทาราได้ 60 จาก 100 คะแนน คิดเป็นคะแนนที่มากขึ้นถึง 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
จึงถือเป็น Industry Mover ในฐานะบริษัทที่อยู่ภายในกลุ่ม 15% ที่ดำเนินธุรกิจได้ดีที่สุดและมีพัฒนาการเรื่องความยั่งยืนอย่างเด่นชัดในการประเมินปี 2024 เมื่อเทียบกับปี 2023
ทั้งยังได้รับผลการประเมินความยั่งยืน MSCI ESG Ratings ระดับ A โดย MSCI ESG Research หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือในด้านดัชนี ESG ในระดับนานาชาติ
ถือเป็นการตอกย้ำการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance – ESG) อีกด้วย
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,072 วันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ข่าวที่เกี่ยวข้อง