พิษทรัมป์ขึ้นภาษี กูรู อสังหาฯจับตา เหล็กไทยอ่วม เหล็กจีนทะลักเข้าไทย  

15 ก.พ. 2568 | 11:35 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.พ. 2568 | 12:10 น.

กูรู อสังหาฯ "พรนริศ -สุรเชษฐ"จับตา เหล็กจีนทะลักเข้าไทยพุ่งเซ่นพิษทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ผวาโรงงานเหล็กไทยต้องปิดตัวลง

กรณี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ  ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียม 25% ที่นำเข้าสหรัฐ มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2568  เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของประเทศ โดยคำสั่งนี้จะมีผลต่อทุกประเทศ ซึ่งกระทบต่อประเทศที่ส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปยังสหรัฐไม่เว้นแม้แต่ไทย  โดยเฉพาะอะลูมิเนียมที่ไทยเป็นผู้ส่งออกอะลูมิเนียมรายใหญ่อันดับ 10 ให้กับสหรัฐฯ

โดนัลด์ ทรัมป์

จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า ช่วง 5 ปี (2563-2567) ไทยส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ไปสหรัฐ และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนี้

1.เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่งออกไปสหรัฐปี 2563 มีมูลค่า 1,015 ล้านดอลลาร์, ปี 2564 มูลค่า 1,397 ล้านดอลลาร์, ปี 2565 มูลค่า 1,503 ล้านดอลลาร์, ปี 2566 มูลค่า 1,494 ล้านดอลลาร์ และปี 2567 มูลค่า 1,205 ล้านดอลลาร์

2.ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม ส่งออกไปสหรัฐปี 2563 มูลค่า 190 ล้านดอลลาร์, ปี 2564 มูลค่า 547 ล้านดอลลาร์, ปี 2565 มูลค่า 667 ล้านดอลลาร์, ปี 2566 มูลค่า 251 ล้านดอลลาร์ และปี 2567 มูลค่า 437 ล้านดอลลาร์

 

นายพรนริศ ชวยไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สะท้อนผ่าน”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า มองว่าเหล็กจากหลายประเทศที่ส่งไปอเมริกา อาจทะลักมาเข้าประเทศไทยโดยเฉพาะเหล็กของจีน ก็คงมีการดัมพ์ราคาทำให้อุตสาหกรรมเหล็กไทยแข่งขันสูง เรานำเข้าเหล็กจากประเทศจีนเป็นหลักอยู่แล้ว อุตสาหกรรมเหล็กในจีนกำลังแย่เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์จีนตกต่ำทำให้โรงงานปิดตัวกันมากมาย แต่ราคาที่ลดก็ไม่น่าทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงเท่าใด

นี่คือผลกระทบระยะสั้น แต่หากสงครามการค้าทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นก็จะส่งผลกับเศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นลูกค้าหลักที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยอย่างไรก็ตามเป็นห่วงโรงงานเหล็กของไทยซึ่งก่อนหน้าก็แย่มากอยู่แล้ว เจอเหล็กจีนเข้ามาดั๊มราคาหากรัฐบาลไม่ช่วยอะไรก็คงต้องปิดตัวลงอีกมาก

ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย กล่าวว่า อสังหาไทยไม่กระทบกับการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก แต่ผู้ประกอบการที่ส่งเหล็กไปสหรัฐฯอาจจะเอาเหล็กที่คาดว่าจะส่งไปสหรัฐไม่ได้มาขายในไทยแทน ซึ่งอาจจะตีกับเหล็กจากจีนที่เข้ามาในไทย ที่เกิดขึ้นมานาน และเป็นไปได้ที่ราคาอาจจะไม่ถูกลง เพราะต้นทุนเป็นตัวกำหนดราคาขาย

แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมเหล็กกล่าวว่าการที่ ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจะส่งผลกระทบหลายประการต่อประเทศไทย ดังนี้

1.ผลกระทบต่อการส่งออกเหล็กของไทย: สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในตลาดส่งออกเหล็กของไทย การขึ้นภาษีเหล็กอาจทำให้เหล็กที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ถูกเก็บภาษีสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นและทำให้สินค้าไทยไม่แข่งขันได้ในตลาดสหรัฐฯ

2.ผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ: หากไทยไม่สามารถส่งออกเหล็กไปยังสหรัฐฯ ได้หรือมีต้นทุนที่สูงขึ้น การค้าระหว่างประเทศอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ ซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยต้องหาตลาดอื่นๆ แทน

3.การปรับตัวของผู้ผลิตในไทย ผู้ผลิตเหล็กในไทยอาจต้องปรับตัวเพื่อหาทางเลือกในการส่งออกไปยังตลาดอื่นที่มีความต้องการเหล็กเพิ่มขึ้น โดยอาจต้องลดราคาหรือพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน

4.ผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตในไทย เนื่องจากเหล็กเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตหลายๆ สินค้า เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิตเครื่องจักร ดังนั้น หากต้นทุนเหล็กเพิ่มขึ้นจากการขึ้นภาษี สินค้าที่ใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบอาจมีต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้ราคาในตลาดไทยเพิ่มขึ้นตามมา

5.ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การขึ้นภาษีของทรัมป์อาจทำให้เกิดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และไทย รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ โดยอาจส่งผลให้มีการเจรจาทางการค้าใหม่หรือมาตรการตอบโต้จากประเทศอื่น

โดยรวมแล้ว การขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กโดยทรัมป์ทำให้เกิดผลกระทบทั้งในเรื่องของการค้าขาย การผลิต และเศรษฐกิจในระดับประเทศ รวมถึงการต้องปรับตัวของผู้ประกอบการไทยเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ