กฤษฎีการื้อใหญ่“สถานบันเทิงครบวงจร”คนไทยเข้าเล่นต้องมีเงินฝาก 50 ล้าน

19 ก.พ. 2568 | 12:21 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.พ. 2568 | 12:47 น.

กฤษฎีการื้อใหญ่“สถานบันเทิงครบวงจร”คนไทยเข้าเล่นต้องมีเงินฝาก 50 ล้าน : คนไทยที่ต้องการเข้ากาสิโน ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ผ่านการลงทะเบียน และต้องมีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ....รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4072

KEY

POINTS

  • ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ฉบับใหม่ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ปรับปรุงแก้ไขสาระสำคัญหลายประการ 
  • กำหนดคุณสมบัติผู้ประกอบการที่ต้องเป็นนิติบุคคลในไทย และมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท 
  • คนไทยที่จะเข้าไปเล่นกาสิโนได้ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ที่สำคัญต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน 

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม ที่ยังมีความกังวลในหลายประเด็นเกี่ยวกับการจัดตั้ง “สถานบันเทิงครบวงจร” ที่มี “กาสิโน” ถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย โดยเฉพาะผลกระทบต่อสังคมและครอบครัว ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เปิดรับฟังความเห็น ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ฉบับใหม่ที่ “คณะกรรมการกฤษฎีกา” ปรับปรุงแก้ไข

 

คนไทยเข้ากาสิโนต้องมีเงิน 50 ล.

 

เมื่อเทียบกับร่างฉบับแรก พบว่า ร่างกฎหมายฉบับที่ 2 นี้ มีการเพิ่มเติมสาระสำคัญหลายประการ ตั้งแต่การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การกำหนดคุณสมบัติผู้ประกอบการที่ต้องเป็นนิติบุคคลในไทย และมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท 

ไปจนถึงเงื่อนไขสำหรับคนไทยที่ต้องการเข้าเล่นกาสิโน ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี และผ่านการลงทะเบียนพร้อมชำระค่าธรรมเนียม ที่สำคัญคือ ต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน 

 

ลักลอบเปิดกาสิโนคุก 5 ปี

 

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มบทลงโทษที่ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโทษจำคุกสูงสุด 5 ปีสำหรับผู้ลักลอบเปิดกาสิโน หรือ โทษปรับสูงถึง 1 ล้านบาท กรณีผู้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนกฎหมาย  

 

นัยสำคัญของการปรับแก้ครั้งนี้ สะท้อนความพยายามของรัฐ ในการผลักดันให้ “ธุรกิจกาสิโน” เข้าสู่ระบบอย่างถูกกฎหมายในรูปแบบสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อเป็นการทำให้ธุรกิจกาสิโน เข้ามาอยู่ในระบบการบริหารจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลและจัดเก็บภาษีเป็นรายได้ของประเทศได้

ร่างพระราชบัญญัติการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ฉบับใหม่ ที่ผ่านการปรับปรุงจากคณะกรรมการกฤษฎีกา รอบที่ 1 มีทั้งหมด 9 หมวด โดยกำหนดให้ "สถานบันเทิงครบวงจร" หมายความว่า การประกอบธุรกิจสถานบันเทิง ตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน และกำหนดให้ "กาสิโน" หมายความว่า การจัดให้มีการเข้าเล่น หรือ การเข้าพนันในสถานที่ที่กำหนดเป็นการเฉพาะ

 

กำหนดหลักการพื้นฐาน 

 

หมวด 1 บททั่วไป กำหนดหลักการพื้นฐาน : ร่างกฎหมายกำหนดให้การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะกระทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้เท่านั้น โดยการกำหนดพื้นที่ตั้งต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องระบุแนวเขตที่ดินและแผนที่ให้ชัดเจน 

 

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องสนับสนุนการพัฒนาควบคู่กับการป้องกันผลกระทบต่อสังคม

 

โครงสร้างการบริหาร 

 

หมวด 2 คณะกรรมการนโยบาย กำหนดโครงสร้างการบริหาร : กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีรัฐมนตรีจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ พร้อมด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 6 คน มีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี และดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว

 

ตั้งหน่วยงานกำกับดูแล

 

หมวด 3 สำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจ จัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแล : กำหนดให้จัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล แต่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่กำกับ ดูแล ควบคุม ส่งเสริม และสนับสนุนการประกอบธุรกิจ

 

อำนาจการตรวจสอบ

 

หมวด 4 พนักงานเจ้าหน้าที่ กำหนดอำนาจการตรวจสอบ : ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการ เรียกเอกสารหลักฐาน ตรวจสอบระบบเทคโนโลยี และมีอำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด

                             กฤษฎีการื้อใหญ่“สถานบันเทิงครบวงจร”คนไทยเข้าเล่นต้องมีเงินฝาก 50 ล้าน

 

ทุนไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท

หมวด 5 การขออนุญาตและเงื่อนไขการประกอบธุรกิจ กำหนดคุณสมบัติผู้ประกอบการ : กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 โดยใบอนุญาตจะมีอายุ 30 ปีและสามารถต่ออายุได้คราวละ 10 ปี

นอกจากนี้ ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องมีประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจสถานบันเทิง หรือ กาสิโนมาไม่น้อยกว่า 10 ปี และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรื อมีประวัติเสื่อมเสียด้านการเงิน 

ทั้งนี้ผู้บริหารและกรรมการต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด และไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเสนอแผนการลงทุนและการดำเนินงานที่ชัดเจน รวมถึงมาตรการป้องกันผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การรักษาความปลอดภัย และระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการป้องกันการฟอกเงินและการทุจริต

เข้มมาตรการป้องกันผลกระทบ

หมวด 6 การควบคุมการประกอบธุรกิจ มาตรการเข้มงวดป้องกันผลกระทบ : กำหนดมาตรการควบคุมที่เข้มงวด โดยเฉพาะการจัดการพื้นที่กาสิโนที่ต้องแยกเป็นเอกเทศ มีรั้วและประตูแยก พร้อมระบบควบคุมการเข้าออก สำหรับคนไทยที่ต้องการเข้ากาสิโน ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ผ่านการลงทะเบียน และต้องมีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ยังห้ามให้บริการกาสิโนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ห้ามถ่ายทอดการเล่น ห้ามโฆษณาหรือเชิญชวน และห้ามจ้างบุคคลเพื่อเพิ่มยอดหรือจำนวนผู้เล่น รวมถึงมีข้อห้ามเด็ดขาดสำหรับการนำอาวุธเข้า การค้าประเวณี การมึนเมาจนวุ่นวาย และการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

เพิ่มบทลงโทษ

หมวด 7 บทกำหนดโทษ เพิ่มบทลงโทษชัดเจน : กำหนดบทลงโทษเป็นลำดับขั้น โดยการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ส่วนกรณีผู้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนกฎหมายจะมีการตักเตือนและให้แก้ไขก่อน หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับสูงสุด 5 ล้านบาทหรือ 0.5% ของรายได้ทั้งปี และอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตในที่สุด

เตรียมพร้อมก่อนบังคับใช้

หมวด 8 บทเฉพาะกาล เตรียมความพร้อมก่อนบังคับใช้ : กำหนดการเตรียมการในช่วงเริ่มต้น โดยให้มีคณะกรรมการชุดแรก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ต้องแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายใน 30 วัน และจัดสรรงบประมาณเริ่มต้นสำหรับการดำเนินงาน

บัญชีแนบท้าย กำหนดประเภทธุรกิจและค่าธรรมเนียม : ระบุประเภทธุรกิจที่สามารถดำเนินการในสถานบันเทิงครบวงจร 10 ประเภท รวมถึง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานบริการ สนามกีฬา และ สวนน้ำ พร้อมกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ 

โดยใบอนุญาตครั้งแรกและการต่ออายุ มีค่าธรรมเนียมฉบับละ 5,000 ล้านบาท และมีค่าธรรมเนียมรายปีๆ ละ 1,000 ล้านบาท ส่วนค่าเข้ากาสิโนสำหรับคนไทยกำหนดไว้ที่ครั้งละ 5,000 บาท