ระวัง ‘กาสิโน’ แฝงฟอกเงิน  นักวิชาการจี้ออก 7 มาตรการเข้ม

15 ก.พ. 2568 | 04:05 น.

"ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์" ห่วงกังวลว่าไทยจะกลายเป็นแหล่งฟอกเงิน หากมี Entertainment Complex ที่มีกาสิโน ชี้ต้องมีมาตรการเข้ม-แก้ปัญหาสังคม ยกกรณีฟิลิปปินส์-กัมพูชาเป็นบทเรียน พร้อมเสนอ 7 ข้อปรับปรุง สอดรับรายงาน UNODC เตือนภัยอาเซียนเสี่ยงเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ฐานเศรษฐกิจ” แสดงความห่วงกังวลต่อหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่กำลังดึงธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน กับนโยบาย “Entertainment Complex” หรือ สถานบันเทิงครบวงจร ที่ในนั้นเบื้องต้นระบุว่าจะมีสัดส่วนของกาสิโน 10% ว่า เข้าใจที่รัฐบาลอยากจะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การยกเรื่องนี้ขึ้นมาอาจไม่สอดคล้องกับสภาวะของสังคมไทย โดยทั่วไปบ่อนคาสิโนมักเป็นที่หมายปองของอาชญากรที่ต้องการฟอกเงิน ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้แต่คาสิโนในประเทศตะวันตกที่มีธรรมาภิบาลและความโปร่งใสสูงกว่าไทย ก็ยังถูกปรับอยู่เป็นประจำเมื่อมาตรการป้องกันการฟอกเงินหย่อนยาน

 

อาจารย์นวลน้อย ได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ที่เปิดคาสิโนมาตั้งแต่ปี 2519 “ในช่วงแรก รายได้ 75% ของคาสิโนในฟิลิปปินส์มาจากห้อง VIP ที่มีระบบตัวแทน (junket) ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เมื่อจีนปราบปรามการทุจริตและออกมาตรการควบคุมการพนัน ทำให้รายได้จากห้อง VIP ลดลงเหลือเพียง 25% นักท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ก่อนเกิด COVID-19 มีประมาณ 8-9 ล้านคน ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 5 ล้านคน แต่รายได้จากคาสิโนไม่ได้ลด เพราะไปกระตุ้นให้คนในประเทศเล่นพนันมากขึ้น”

 สำหรับกรณีของกัมพูชา รศ.ดร.นวลน้อยชี้ให้เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเมืองสีหนุวิลล์ เมืองที่เคยสวยงามและตั้งใจจะพัฒนาเป็นเมืองท่า เมืองพักผ่อน กลับกลายเป็นแหล่งคาสิโนและพนันออนไลน์ที่มีปัญหาอาชญากรรม การค้ามนุษย์ และการกักขังหน่วงเหนี่ยว มีชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายอยู่หลายแสนคน จนรัฐบาลจีนต้องขอความร่วมมือในการปราบปราม ปัจจุบันเหลือแต่ตึกร้างเปล่าเยอะแยะ การสร้างก็ไม่ได้มาตรฐาน มีตึกถล่ม เป็นปัญหาที่คั่งค้างว่าจะจัดการอย่างไร

 

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน

 

รศ.ดร.นวลน้อย ได้เสนอแนะให้ปรับปรุงร่างกฎหมาย Entertainment Complex ของไทยในหลายประเด็น กำหนดจำนวนสถานที่ให้ชัดเจน เริ่มต้นในจำนวนจำกัด รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้น กำหนดแผนจัดการผลกระทบและการเยียวยาให้ชัดเจน จัดตั้งกองทุนเฉพาะสำหรับแก้ไขปัญหาผลกระทบ เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการฟอกเงิน ทบทวนผลการดำเนินการทุก 5 ปี มีความชัดเจนในเรื่องการปล่อยสินเชื่อและการเก็บหนี้

“ประเทศไทยเรามีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว มีทั้งทรัพยากรและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ปัญหาของเราคือการทำให้การท่องเที่ยวได้มาตรฐานความปลอดภัยสูง ถ้ารัฐบาลทุ่มเทตรงนั้น เราจะได้มูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวมากกว่า” รศ.ดร.นวลน้อยกล่าว พร้อมทิ้งท้ายว่า “อย่ารีบร้อน ใจเย็นๆ และอย่ารีบขยายตัว ถ้าคุณเขียนจุดหมายปลายทางไว้ละเอียด ประชาชนก็จะสามารถเล็งเห็นแผนได้ว่า คุณทำด้วยความระมัดระวัง และอยากให้มันเกิดประโยชน์กับทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ผลกระทบทางสังคมก็พยายามให้มันน้อยที่สุด”

 

จากบทเรียนดังกล่าว รศ.ดร.นวลน้อย ได้เสนอแนะให้รัฐบาลปรับปรุงร่างกฎหมาย Entertainment Complex ของไทยใน 7 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย 1.กำหนดจำนวนสถานที่ให้ชัดเจน โดยเริ่มต้นในจำนวนจำกัด 2.จัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้น 3.กำหนดแผนจัดการผลกระทบและการเยียวยาให้ชัดเจน 4.จัดตั้งกองทุนเฉพาะสำหรับแก้ไขปัญหาผลกระทบ 5.เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการฟอกเงิน 6.ทบทวนผลการดำเนินการทุก 5 ปี 7.มีความชัดเจนในเรื่องการปล่อยสินเชื่อและการเก็บหนี้

 

ดร.นวลน้อย ระบุด้วยว่า สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เคยออกรายงานฉบับประจำเดือนมกราคม 2567 เรื่อง “บ่อนคาสิโน การฟอกเงิน เงินนอกกฎหมาย และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้: ภัยคุกคามซ่อนเร้นและเร่งขยายตัว” สะท้อนให้เห็นสถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติที่กำลังทวีความรุนแรงและซับซ้อนในภูมิภาคอย่างน่าวิตก

 

โดย นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกของ UNODC เปิดเผยในรายงานฉบับนั้นว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาพแวดล้อมในการบังคับใช้กฎหมายและการค้ายาเสพติด ส่งผลให้องค์กรอาชญากรรมต้องปรับตัวและพัฒนารูปแบบการกระทำผิดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการใช้ธุรกิจคาสิโนเป็นช่องทางในการฟอกเงินที่ได้จากกิจกรรมผิดกฎหมาย

 

ระวัง ‘กาสิโน’ แฝงฟอกเงิน  นักวิชาการจี้ออก 7 มาตรการเข้ม

 

รายงานระบุว่า สถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมากภายหลังการระบาดของโควิด-19 เมื่อกลุ่มผู้จัดหานักพนันระดับสูงหรือ “จังเก็ต” (Junket) ได้ย้ายฐานปฏิบัติการไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษมากขึ้น โดยกลุ่มจังเก็ตเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างบ่อนคาสิโนกับธุรกิจผิดกฎหมาย และมีส่วนสำคัญในการขยายเครือข่ายอาชญากรรมในภูมิภาค

 

ที่น่าวิตกไม่แพ้กันคือการขยายตัวของการหลอกลวงทางไซเบอร์ (Cyber-fraud) ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยองค์กรอาชญากรรมได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างบล็อกเชน (Blockchain) และปัญญาประดิษฐ์ (Generative AI) มาใช้เพื่อเพิ่มความซับซ้อนในการฟอกเงินและหลบเลี่ยงการตรวจจับ นอกจากนี้ยังพบการพัฒนาแพลตฟอร์มการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายในรูปแบบ e-junkets และระบบเงินดิจิทัลที่หลีกเลี่ยงการควบคุม

 

UNODC ยังเน้นย้ำว่า การเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมายในภูมิภาคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและควบคุมได้ยาก จำเป็นต้องเร่งพัฒนาระบบตรวจสอบและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อต่อต้านการฟอกเงิน ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค พร้อมทั้งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

 

การพัฒนารายงานฉบับนี้อาศัยการวิเคราะห์ผลการสอบสวนและรายงานการรับคดีจากเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายที่ทำงานมาเป็นเวลานาน รวมถึงได้รับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายและหน่วยงานการสืบสวนสอบสวนทั้งในระดับนานาชาติและระดับท้องถิ่น

 

นายดักลาสกล่าวทิ้งท้ายว่า รายงานฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคามที่กำลังทวีความรุนแรง และนำไปสู่การพัฒนามาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อต่อต้านองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาคอย่างยั่งยืน

 

ทั้งนี้ UNODC ย้ำว่าความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือการสร้างระบบการทำงานที่เป็นมืออาชีพและการพัฒนาความชำนาญการ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในภูมิภาคร่วมมือกันอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลายจนยากแก่การควบคุม

 

ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน พบข้อมูลเมื่อปี 2566 ว่า สังคมไทยกับวงจรการพนันที่รุนแรงขึ้น เมื่อการพนันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ผลการสำรวจล่าสุดสะท้อนภาพที่น่าวิตกของสังคมไทย เมื่อพบว่าประชาชนเกือบทั้งประเทศ (99.3%) มีบุคคลรอบตัวที่เล่นการพนัน โดยกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือเพื่อนสนิท (84.9%) ตามมาด้วยคนแถวบ้าน (81.1%) และญาติพี่น้อง (80.4%) สะท้อนให้เห็นว่าการพนันได้แทรกซึมเข้าไปในทุกระดับความสัมพันธ์ของสังคมไทย

 

ที่น่าห่วงคือแม้แต่ในครอบครัว พบว่ามีพ่อแม่ที่เล่นการพนัน 66.6% และคนรักหรือแฟนอีก 58.9% ขณะที่ดารา นักร้อง และเน็ตไอดอล ซึ่งมีอิทธิพลต่อเยาวชน ก็มีถึง 46.6% ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน

 

การเข้าถึงการพนันที่ง่ายเกินไป : สถิติชี้ให้เห็นว่าคนไทยเกือบ 100% (99.9%) สามารถพบเห็นช่องทางการเล่นพนันได้โดยง่าย โดยช่องทางที่พบมากที่สุดคือคนขายและแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล (98.2%) ตามมาด้วยคนเดินโพยหวยและโพยบอล (95.1%) แอปพนัน (83.6%) และ TikTok (82.9%)

 

ที่น่าตกใจคือ ในบางช่องทางมีผู้ระบุว่าเมื่อเห็นแล้วรู้สึกอยากเล่น ‘มากถึงมากที่สุด’ ในอัตราที่สูง โดยเฉพาะเว็บพนัน (50.1%) เฟซบุ๊ก (49.6%) และบ่อนในชุมชน (45.0%) นอกจากนี้ยังพบว่าหลายช่องทางสามารถเข้าไปเล่นได้ทันที โดยเฉพาะคนเดินโพยหวยและโพยบอล (25.7%) และเว็บพนัน (19.7%)

 

ผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน : การสำรวจพบว่าการพบเห็นคนรอบตัวเล่นพนันมีผลต่อความรู้สึกอยากเล่นพนันในระดับ ‘ปานกลาง’ โดยเฉลี่ย แต่ที่น่าห่วงคือในกลุ่มเด็กอายุ 15-18 ปี มี 21% ที่ระบุว่ามีผลให้รู้สึกอยากเล่นพนันในระดับ ‘มากถึงมากที่สุด’ และในกลุ่มเยาวชนอายุ 19-25 ปี มีสูงถึง 26%

 

สถิติที่น่าตกใจ: เริ่มเล่นเร็วขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น ปัจจุบันคนไทย 82.2% มีประสบการณ์เล่นพนันในชีวิต เพิ่มขึ้น 3% จากการสำรวจปี 2564 โดยเฉลี่ยเริ่มเล่นครั้งแรกที่อายุ 22 ปี แต่ที่น่าตกใจคือพบว่ามีผู้เริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งเร็วขึ้น 1 ปีเมื่อเทียบกับผลสำรวจครั้งก่อน

 

การพนันที่มักเป็นจุดเริ่มต้นได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล (30.6%) ไพ่พนัน (23.7%) และหวยใต้ดิน (18.5%) โดย 90.7% เริ่มเล่นผ่านช่องทางออฟไลน์ มีเพียง 7.6% ที่เริ่มผ่านช่องทางออนไลน์ และ 1.7% ที่เล่นทั้งสองช่องทาง

 

 

ที่มา : ข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,071 วันที่ 16 - 19 ก.พ.2568 วางแผงแล้ววันนี้ รื้อแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตย 1 แสนล้าน • ถกกฤษฎีกาแก้ปมฟอกเงิน - การพนัน • รัฐบาลลุยไฟ ดึง 3 ล้านล้านขึ้นบนดิน : เข้ม! ทุกคอลัมน์ แน่น! ทุกบรรทัด

 

ระวัง ‘กาสิโน’ แฝงฟอกเงิน  นักวิชาการจี้ออก 7 มาตรการเข้ม

 

และในรูปแบบ E-Book ทาง https://www.ookbee.com/Shop/Magazine/THANSETTAKIJ และพลาดไม่ได้! สแกนปุ๊บ เคลื่อนไหวปั๊บ สิงคโปร์ผวาไทย? Entertainment Complex ไทย โอกาสหรือความเสี่ยง?