House of Dancing Water คัมแบ็ก ปั้นกาสิโนมาเก๊าสู่ฮับบันเทิงระดับโลก

แม้ว่ามาเก๊าจะขึ้นชื่อว่าเป็น "ลาสเวกัสแห่งเอเชีย" แต่รัฐบาลมาเก๊ากำลังพยายามลดการพึ่งพารายได้จาก "กาสิโน" และส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและความบันเทิงมากขึ้น

มาเก๊า ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน เป็นสถานที่แห่งเดียวในประเทศที่การพนันถูกกฎหมาย เศรษฐกิจของมาเก๊าพึ่งพกาสิโนเป็นอย่างมาก ซึ่งสร้างรายได้จากภาษีประมาณ 80%

ความพยายามปราบปรามคอร์รัปชันในระยะยาวของจีนได้ควบคุมรายได้จากการพนันของกลุ่ม VIP ระดับสูง ซึ่งได้รับผลกระทบหนักมากขึ้นในช่วงหลายปีที่เกิดโรคระบาด เมื่อข้อจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ลดลงอย่างมาก

"มาเก๊า" มักถูกมองว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก ตามข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวมาเก๊า ในปี 2019 ก่อนเกิดโรคระบาด นักท่องเที่ยว 90% ในมาเก๊ามาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรวมถึงนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงและไต้หวันด้วย

กาสิโนมาเก๊า ดิ้นรนเพื่อก้าวไปให้เหนือการเล่นเกม

แม้ว่ารายได้พุ่งสูงขึ้นเกือบ 1 ใน 4 ในปี 2024 แต่ยังคงต่ำกว่าก่อนเกิดโรคระบาด ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นที่มาเก๊าจะต้องกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ

รายได้จากการเล่นเกมปีที่แล้วอยู่ที่ 226.8 พันล้านปาตากา (MOP) (28.35 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 23.9% จากปี 2023 ตามข้อมูลเผยแพร่โดย สำนักงานตรวจสอบและประสานงานการพนัน (Monthly Gross Revenue from Games of Fortune)

ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่รัฐบาลประมาณการไว้ซึ่งอยู่ที่ 216 พันล้านปาตากา แต่ยังน้อยกว่าตัวเลข 292.5 พันล้านปาตากา ที่บันทึกไว้ในปี 2019

ที่น่าสังเกต คือ รายได้ลดลง 2.0% ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนเดียวที่รายได้ลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2024 

การลดลงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดโดยรอบการเยือนของ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นเวลา 3 วันเพื่อรำลึกถึงการปกครองของจีนครบรอบ 25 ปี

มาเก๊า เร่งสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ

มาเก๊าคืนสู่การปกครองของจีนเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1999 ภายใต้ระบบ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" เช่นเดียวกับฮ่องกงที่อยู่ใกล้เคียง

ระหว่างการเดินทาง สี จิ้นผิง เรียกร้องให้มาเก๊ามี "ความกล้า" ที่จะสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจโดยการจัดตั้งอุตสาหกรรมใหม่และเชื่อมโยงกับกลยุทธ์การพัฒนาระดับชาติของจีนแผ่นดินใหญ่ให้ดีขึ้น

รวมถึงบูรณาการทางเศรษฐกิจกับ เขตอ่าว Greater Bay ซึ่งเป็นภูมิภาคในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงที่เชื่อมโยงเมืองต่างๆ เช่น ฮ่องกงและกว่างโจว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันระดับโลก

สี จิ้นผิง กล่าวว่า มาเก๊าควรบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก นอกเหนือจากการเป็นศูนย์กลางกาสิโน โดยการใช้จุดแข็งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาเก๊า ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส ผลักดัน โครงการ Belt and Road Initiative ซึ่งเป็นแผนกระตุ้นการค้าระหว่างจีนและส่วนอื่น ๆ ของโลก

มาเก๊าเป็นศูนย์กลางการพนันอันดับหนึ่งของโลก

นักวิเคราะห์คาดว่า อุตสาหกรรมเกมของมาเก๊าจะฟื้นตัวต่อไปได้แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทาย โดยการคาดการณ์ของ Morgan Stanley ระบุว่า รายได้รวมจากการเล่นเกม (Gross Gambling Revenue : GGR) จะเติบโตเป็นประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 และ 31,200 ล้านดอลลาร์ในปี 2026 แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของจีนเป็นหลักก็ตาม

ปัจจุบันมีกาสิโนในมาเก๊ามีทั้งหมดกว่า 40 แห่ง กาสิโนเหล่านี้ ดำเนินการโดยผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาต 6 ราย ได้แก่

1. Galaxy Entertainment Group ("Galaxy")
2. Melco Resorts & Entertainment Ltd ("Melco")
3. MGM China Holdings
4. Sands China Ltd
5. SJM Holdings Ltd
6. Wynn Macau Ltd

โดยกาสิโนทั้งหมดจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ยกเว้น Melco ซึ่งจดทะเบียนอยู่ใน NASDAQ

Melco Resorts & Entertainment Limited ประกาศรายได้

รายได้จากการดำเนินงาน 1.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 เพิ่มขึ้น 9 % เมื่อเทียบเป็นรายปี

อย่างไรก็ตาม EBITDA ของทรัพย์สินที่ปรับแล้วลดลง 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีก่อนมาอยู่ที่ 295.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในการยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิ 20.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของผลขาดทุนที่บันทึกไว้ในช่วงเดียวกันของปี 2023

ในทางตรงกันข้าม Melco รายงานรายได้สุทธิ 27.3 ล้านดอลลาร์สสหรัฐฯ ในไตรมาสกรกฎาคมถึงกันยายนปี 2024

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิทั้งปีได้ 43.5 ล้านดอลลาร์สสหรัฐ ซึ่งปรับปรุงดีขึ้นอย่างมากจากการขาดทุน 326.9 ล้านดอลลาร์สสหรัฐที่บันทึกไว้ในปี 2023

EBITDA ของทรัพย์สินที่ปรับแล้วสำหรับปี 2024 อยู่ที่ 1.22 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปี 2023

Melco Resorts & Entertainment ดำเนินกิจการกาสิโนรีสอร์ทในมาเก๊า ฟิลิปปินส์ และไซปรัส โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากมาเก๊า ทรัพย์สินและการดำเนินงานของบริษัทในมาเก๊า ได้แก่ City of Dreams, Altira Macau, Studio City และ Mocha Clubs & Other คิดเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ของรายได้การดำเนินงานทั้งหมดของกลุ่ม

ในบรรดาทรัพย์สินของมาเก๊า City of Dreams ยังคงมีผลงานดีที่สุด โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 591.1 ล้านดอลลาร์สสหรัฐในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว ตามมาด้วย Studio City ด้วย 342.0 ล้านดอลลาร์สสหรัฐ

City of Dreams Manila เป็นโรงแรมอันดับสามของกลุ่ม

รายงานรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 133.8 ล้านเหรียญสหรัฐ รีสอร์ทของ Melco ในฟิลิปปินส์ มีไตรมาสที่แข็งแกร่ง โดยมี EBITDA ของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นตามลำดับ รวมถึงส่วนแบ่งทางการตลาดด้วย

นอกจากนี้ Melco ยังดำเนินการคาสิโนดาวเทียมสามแห่งในไซปรัสร่วมกับ City of Dreams Mediterranean ซึ่งเปิดตัวในช่วงกลางปี ​​2023 รายได้จากการดำเนินงานจากทรัพย์สินของกลุ่มบริษัทในไซปรัส มีส่วนทำให้ EBITDA ที่ปรับแล้วเพิ่มขึ้นจาก 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 เป็น 11.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงสามเดือนที่สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2024

City of Dreams Macau สร้าง "Luxury Entertainment Experience"

City of Dreams มาเก๊า ไม่ได้เป็นเพียงกาสิโนและโรงแรมหรู แหล่งชอปปิงสุดหรู ร้านอาหารระดับ Michelin-star และไนต์คลับสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งช่วยเสริมให้มาเก๊ากลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ให้ประสบการณ์แบบครบวงจรสำหรับนักท่องเที่ยว

แต่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิงที่รวมเอาประสบการณ์ระดับพรีเมียมไว้ในที่เดียว การลงทุนในโชว์อย่าง House of Dancing Water เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของแนวทางนี้

House of Dancing Water เป็นการแสดงระดับตำนานที่เคยสร้างความประทับใจให้ผู้ชมกว่า 4,000 รอบ กำลังจะกลับมาอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2025 หลังจากการหยุดแสดงไปนานหลายปี พร้อมเวอร์ชันใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น

การกลับมาของการแสดงนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวดีของแฟน ๆ ศิลปะการแสดง แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของมาเก๊า ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงจาก "เมืองกาสิโน" สู่ "ศูนย์กลางความบันเทิงระดับโลก"

การประกาศครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นที่ โรงแรม Morpheus ใน City of Dreams Macau โดยมี ลอว์เรนซ์ โฮ ประธานและซีอีโอของ Melco Resorts & Entertainment และ จูเลียโน เปปารินี ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์จาก Peparini Studios เป็นผู้นำเสนอ

พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมงานทั้งภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวของมาเก๊า อาทิ แพทริก โฮ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและสร้างสรรค์ สำนักงานกิจการวัฒนธรรมมาเก๊า เจนนิเฟอร์ ซีโต หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวและกิจกรรม สำนักงานการท่องเที่ยวมาเก๊า และซู ตง เจีย รองผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และวัฒนธรรม สำนักงานประสานงานของรัฐบาลกลางในมาเก๊า

ปรับโฉมใหม่ ยกระดับความอลังการ

"House of Dancing Water" ผลงานสร้างสรรค์ที่ลงทุนกว่า 2 พันล้านหยวน (9.4 พันล้านบาท) เตรียมกลับมาพร้อมการออกแบบใหม่โดย Our Legacy Creations และกำกับโดย จูเลียโน เปปารินี โดยยังคงเอกลักษณ์การเล่าเรื่องที่เข้าถึงทุกอารมณ์ 

โดยมีการเล่าเรื่องในรูปแบบโรแมนติกและเข้าถึงใจผู้ชมทุกเพศทุกวัย ช่วยสร้างการแสดงทางน้ำที่น่าทึ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ชมตกตะลึง แต่ยังทำให้หัวใจเปล่งประกายด้วยเสน่ห์แห่งศิลปะ เเละยังเพิ่มความล้ำสมัยด้วยเทคนิคฉาก เอฟเฟกต์แสง และเทคโนโลยีการแสดงระดับโลก

เทคโนโลยี คือ หัวใจสำคัญของการแสดงครั้งนี้ โรงละครของเราโดดเด่นและไม่เหมือนที่ใดในโลก เพราะเป็นเวทีการแสดงทางน้ำเพียงหนึ่งเดียว เรื่องราวความรักก็เป็นอีกจุดเด่นที่ขับเคลื่อนโชว์ ผมเชื่อว่าความรักคือสิ่งที่ทุกคนโหยหา และเราควรให้ความสำคัญ บทกวียังเป็นองค์ประกอบที่ผมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ จูเลียโน เปปารินี ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ House of Dancing Water กล่าว

นักแสดงกว่า 300 ชีวิตจาก 30 ประเทศ จะนำเสนอการแสดงสุดตระการตาที่ผสมผสานการเต้น การแสดงกลางอากาศ และการแสดงใต้น้ำ ในโรงละคร 270 องศาที่มีระบบน้ำขั้นสูง ลิฟต์ไฮดรอลิก และโปรเจ็กเตอร์สุดล้ำ เพื่อสร้างประสบการณ์เหนือจินตนาการ

ขับเคลื่อนมาเก๊าสู่ศูนย์กลางบันเทิงระดับโลก

ลอว์เรนซ์ โฮ ประธานและซีอีโอของ Melco Resorts & Entertainment กล่าวว่า Melco มุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวที่เหนือระดับ การกลับมาของ House of Dancing Water 

ไม่เพียงสร้างแรงกระเพื่อมในวงการบันเทิง แต่ยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สนับสนุนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลมาเก๊าในการทำให้เมืองนี้เป็น ศูนย์กลางของการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลก

เราภูมิใจที่ได้มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ไม่เหมือนใครให้แก่ผู้มาเยือนมาเก๊า การผลิตระดับโลกนี้ช่วยเสริมสร้างการพัฒนาและภาพลักษณ์ของ City of Dreams Macau และยังตั้งมาตรฐานใหม่ในความเป็นเลิศและนวัตกรรมในวงการความบันเทิง โดยเชื่อมั่นว่าประสบการณ์อันไม่อาจเทียบได้จาก House of Dancing Water จะทำให้มาเก๊ากลายเป็นจุดหมายปลายทางของการแสดงสดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและสนับสนุนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการทำให้มาเก๊าเป็น ศูนย์กลางของการท่องเที่ยวและความบันเทิงของโลก

House of Dancing Water แม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว

House of Dancing Water เปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 ที่ City of Dreams Macau โดยได้รับการออกแบบโดย Franco Dragone ผู้กำกับชื่อดังที่อยู่เบื้องหลังการแสดงของ Cirque du Soleil

การแสดงนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างกายกรรม การแสดงผาดโผน เทคนิคพิเศษทางน้ำ และเรื่องราวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ซึ่งทำให้กลายเป็นหนึ่งในโชว์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในเอเชีย

ก่อนที่การแสดงจะหยุดพักในปี 2020 จากสถานการณ์โควิด-19 House of Dancing Water เคยดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 6 ล้านคนจากทั่วโลก รายได้จากการแสดงช่วยส่งเสริมธุรกิจในเครือของ City of Dreams Macau และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของมาเก๊า

House of Dancing Water 2025 ความคาดหวังต่อเวอร์ชันใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

การกลับมาของ House of Dancing Water ในปี 2025 จะมาพร้อมกับการอัปเกรดโปรดักชันครั้งใหญ่ ทั้งในด้านเทคนิค แสง สี เสียง และเนื้อเรื่องที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การแสดงมีความสดใหม่และสามารถดึงดูดผู้ชมยุคใหม่ได้มากขึ้น

คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าพักในโรงแรมหรูของมาเก๊า ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ระดับพรีเมียม และกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองในภาพรวม

House of Dancing Water จะเปิดการแสดงรอบปฐมทัศน์ในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยเชิญชวนผู้ชมจากทั่วโลกให้มาร่วมดื่มด่ำการแสดงทางน้ำครั้งหนึ่งในชีวิตที่ City of Dreams Macau บัตรเข้าชมจะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2025 เป็นต้นไป