ในช่วงหลังการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา หลายประเทศต้องเผชิญทั้งแรงกดดันจากการแข่งขันทางเศรษฐกิจและนวัตกรรม การแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างประเทศด้าน EVs, Renewable Energy, และ AI รวมไปถึงแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เป้าหมาย Net Zero และ ESG และ กฎระเบียบ CBAM ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการค้าระหว่างประเทศ ทำให้เกิดแนวคิดการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ (Twin Transition) โดยสำหรับประเทศไทยที่เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่องนั้น Twin Transition เป็นอีกหนึ่งแนวทางการพัฒนาที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยยังสามารถแข่งขันในระดับโลกได้และพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่ใกล้จะมาถึง
การเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างสูงให้แก่องค์กรหรือหน่วยงาน และผู้ประกอบการที่ปรับตัวได้ก่อน ทำให้ได้เปรียบในเชิงเปรียบเทียบ มี potential growth ที่สูงมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเทคโนโลยีเหล่านั้นแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ความได้เปรียบดังกล่าวจะลดลง
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้ประกอบการที่สามารถตอบสนองต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วได้ดี จะเป็นผู้ชนะและได้เปรียบในระยะยาว สามารถสร้าง new S-curve ได้ตลอดและหรือมีการสร้างนวัตกรรมที่ต่อยอดบนสินค้าและบริการ และได้อานิสงส์จากเทคโนโลยีมากที่สุด
ในขณะที่การปรับตัวของสิ่งแวดล้อมในระยะเริ่มต้นจะเป็นต้นทุนที่สูง เนื่องจากต้องมีต้นทุนในการดำเนินการ อีกทั้งจะกดดันความสามารถในการทำกำไร ในช่วงนี้รัฐควรจะเข้ามาแบกรับภาระให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ก่อนในช่วงแรกซึ่งอาจจะมีมาตรการทางการเงินและภาษีเข้ามาอุดหนุนเป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ประกอบการปรับตัวได้เข้าสู่ new normal ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่างเท่าเทียมกัน ต้นทุนและอุปสรรคด้านสิ่งแวดล้อมก็จะไม่ส่งผลให้เกิดการเสียเปรียบหรือได้เปรียบต่อกันมากนัก ยกเว้น ผู้ประกอบการรายที่ปรับตัวไม่ได้
แนวโน้มที่เป็นไปได้สำหรับ Twin Transition
จากกราฟแสดงให้เห็นแนวโน้มที่เป็นไปได้ของ Digital Transition Green Transition และ Profitability of Firm ในช่วงเวลาหรือระยะต่าง ๆ โดย
1. Digital Transition: แสดงการเติบโตในลักษณะลอการิทึม (logarithmic growth) ซึ่งอาจเกิดจากการปรับใช้เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
2. Green Transition: มีแนวโน้มการเติบโตแบบรากที่สอง (square root growth) สื่อถึงการปรับตัวด้านความยั่งยืนที่อาจเริ่มช้ากว่าแต่เพิ่มขึ้นในระยะยาว
3. Profitability of Firm: เป็นผลรวมที่สะท้อนผลกระทบเชิงบวกจากทั้ง Digital และ Green Transition ต่อความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการ
การเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ (Twin Transition) หมายถึง การพัฒนาภาคเศรษฐกิจและสังคม
โดยบูรณาการการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) และการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Transition) อย่างสอดคล้องกัน แนวคิดนี้ได้รับความสนใจในสหภาพยุโรปและองค์กรระหว่างประเทศ เช่น OECD และ UN โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs)
ปัจจัยหลักในกระบวนการการเกิด Digital Transformation ที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรให้ความสำคัญนั้น ประกอบด้วย
ในขณะเดียวกัน ปัจจัยหลักในกระบวนการการเกิด Green Transition ที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรให้ความสำคัญนั้น ประกอบด้วย
ความสำคัญในการผลักดัน Twin Transition ในประเทศไทย
ภายใต้แรงกดดันด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ทำให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของไทย โดยเฉพาะภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ต้องมีการวางแผนและกำหนดทิศทางการสนับสนุนที่สอดคล้องกับทิศทางของโลกในอนาคต การนำหลัก Twin Transition มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของประเทศไทยจะเสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมและ SMEs ปรับตัวและเตรียมพร้อมรับแรงกดดันทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
การปรับตัวเข้าสู่ Twin Transition จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐาน ESG (Environmental Social Governance) เช่น สหภาพยุโรป และประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างโอกาสในธุรกิจรูปแบบใหม่ (New Business Models) การตอบสนองต่อแนวโน้มการค้าโลก อีกทั้งทั่วโลกยังให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอนและการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น กฎระเบียบ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ของสหภาพยุโรป โดยหากผู้ประกอบการไทยไม่ปรับตัวจะเสียเปรียบในการแข่งขันทางการค้ารวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงข้อมูลตลาดและลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
นอกจากนั้นการเปลี่ยนผ่านแบบ Twin Transition จะเสริมสร้างศักยภาพของ SMEs ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทย ซึ่งคิดเป็นผู้ประกอบการกว่า 3 ล้านราย มีสัดส่วนใน GDP ถึงร้อยละ 35 และมีการจ้างงานในสาขาการค้าและบริการกว่า 10 ล้านคน การเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่จะช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้อยู่รอดและเติบโตในยุคที่การแข่งขันและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวดขึ้น รวมไปถึงการสร้างโอกาสใหม่
จากการผสมผสานเทคโนโลยีและความยั่งยืนสร้างโอกาสในตลาดใหม่ เช่น สินค้าและบริการสีเขียว (Green Products/Services) และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน ซึ่งสามารถช่วยผู้ประกอบการทั้งเรื่อง Top Line คือ รายได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และ Bottom Line หรือกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งในระยะยาว
แนวทางการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ (Twin Transition) อุตสาหกรรมหลักของไทย
1. อุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป (Agri-Food & Food Processing Industry)
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศศูนย์กลางการผลิตและส่งออกอาหารของโลก โดยเฉพาะอาหารแปรรูป อาหารทะเล และเครื่องปรุงรส การพัฒนา Smart Agriculture และ Sustainable Food Production เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลจะช่วยให้จะช่วยให้อุตสาหกรรมอาหารไทยแข่งขันในตลาด ESG และ Green Economy ได้ง่ายขึ้น แนวทางการเปลี่ยนผ่าน Twin Transition ในอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป มีดังต่อไปนี้
Digital Transition
Green Transition
ตัวอย่างบริษัทที่ขับเคลื่อน Twin Transition:
2. อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง (Automotive & Transportation Industry)
ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของอาเซียนและมีทิศทางในการเปลี่ยนผ่านสู่ EV Hub
โดยอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีความจำเป็นต้องลดการปล่อยคาร์บอนเพื่อตอบโจทย์ ESG ทั้งรัฐบาลยังสนับสนุนอุตสาหกรรม EV และ Green Logistics ผ่านนโยบายต่าง ๆ เช่น EV 3.5 และ Green Transport แนวทางการเปลี่ยนผ่าน Twin Transition ในอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง มีดังต่อไปนี้
Digital Transition
Green Transition
ตัวอย่างบริษัทที่ขับเคลื่อน Twin Transition
3. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ (Electronics & Semiconductor Industry)
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดแวร์ที่สำคัญในเอเชีย โดยแนวโน้ม AI, Cloud Computing, Edge Computing และ 5G ทำให้ไทยมีโอกาสเป็นศูนย์กลางการผลิตอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ประกอบกับความต้องการ Green Electronics & Sustainable IT กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก แนวทางการเปลี่ยนผ่าน Twin Transition ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ มีดังต่อไปนี้
Digital Transition
Green Transition
ตัวอย่างบริษัทที่ขับเคลื่อน Twin Transition
จากที่กล่าวมาข้างต้น Twin Transition จะสามารถช่วยให้ไทยแข่งขันในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลและความยั่งยืน แต่อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่นั้นไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และควรจะมีการสนับสนุนและผลักดันจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตลอดห่วงโซ่การผลิตโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศและรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างพร้อมเพรียงกัน
ข้อเสนอแนะสำหรับการขับเคลื่อน Twin Transition ในประเทศไทย
ข้อเสนอแนะสำหรับภาครัฐ
1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและพลังงานสะอาด
2. การออกนโยบายและมาตรการสนับสนุน
3. การพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อรองรับ Twin Transition
ข้อเสนอแนะสำหรับภาคเอกชน
1. การลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลและพลังงานสะอาด
2. การปรับห่วงโซ่อุปทานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
3. การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้น ESG & Twin Transition
Twin Transition จึงเป็นแนวทางสำคัญที่ภาครัฐ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ควรคำนึงถึงในกระบวนการจัดสรรงบประมาณและแผนการดำเนินงาน เป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน โดยการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลและสิ่งแวดล้อมจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยถึงแม้ว่าจะมีความท้าทายในการปรับตัวแต่หากมีการร่วมมือของภาครัฐและเอกชน พร้อมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม Twin Transition จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างมั่นคง