สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เปิดรับฟังความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (ร่างฯ ที่ สคก. ตรวจพิจารณาแล้ว เรื่องเสร็จที่ 261/2568) ระหว่างวันที่ 27 ก.พ. ถึง 13 มี.ค. 2568 ซึ่งเป็นการรับฟังความเห็นครั้งที่ 4 หลังจากก่อนหน้านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหลายประเด็น
ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกอบด้วย 7 หมวด 104 มาตรา กำหนดให้การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเป็นไปตามใบอนุญาต โดยมีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรเป็นผู้ควบคุมนโยบาย และมีสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเป็นหน่วยงานกำกับดูแล โดยมีรายละเอียดดังนี้:
คณะกรรมการนโยบายประกอบด้วยกรรมการโดยตำแหน่ง 12 คน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีจาก 7 กระทรวง (คลัง, ท่องเที่ยวและกีฬา, พัฒนาสังคมฯ, พาณิชย์, มหาดไทย, ยุติธรรม, สาธารณสุข) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการ BOI และเลขาธิการ ปปง. รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน 6 คน
ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในไทยและมีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท โดยใบอนุญาตมีอายุ 30 ปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ผู้รับใบอนุญาตจะได้รับการยกเว้นจากกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
ร่างกฎหมายกำหนดว่าบุคคลสัญชาติไทยที่จะเล่นพนันในคาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
กฎหมายห้ามจัดให้มีการเล่นพนันในคาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือถ่ายทอดการเล่นพนันเพื่อให้บุคคลภายนอกคาสิโนเล่นพนันได้
นอกจากนี้ ผู้รับใบอนุญาตต้องแยกพื้นที่คาสิโนออกจากธุรกิจสถานบันเทิงอื่นๆ จัดทางเข้าออกและระบบลิฟต์เฉพาะสำหรับผู้เข้าคาสิโน รวมทั้งต้องมีการตรวจสอบและลงทะเบียนบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้เข้าใช้บริการ
ร่าง พ.ร.บ.นี้ยังได้กำหนดบทลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา เช่น ผู้รับใบอนุญาตที่จัดพนันผิดประเภทต้องชำระค่าปรับพินัยไม่เกิน 5 ล้านบาท ผู้พาเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าคาสิโนต้องชำระค่าปรับพินัยไม่เกิน 50,000 บาท
ส่วนโทษทางอาญา เช่น ผู้จัดให้มีการเล่นพนันผ่านอินเทอร์เน็ตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากเป็นผู้รับใบอนุญาตต้องรับโทษเพิ่มเป็นสองเท่า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตาม พ.ร.บ.นี้ หากกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ยาเสพติด หรือการค้ามนุษย์ จะต้องรับโทษเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ในบัญชีแนบท้ายได้กำหนด อัตราค่าธรรมเนียม และประเภทธุรกิจสถานบันเทิง ดังนี้
อัตราค่าธรรมเนียม
การขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท
ใบอนุญาต
ค่าเข้ากาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท
ประเภทธุรกิจสถานบันเทิง
1. ห้างสรรพสินค้า
2. โรงแรม
3. สถานบริการ
4. สนามกีฬา
5. ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ
6. สถานที่เล่นเกม
7. สระว่ายน้ำและสวนน้ำ
8. สวนสนุก
9. กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
โดยร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ฉบับล่าสุด ได้ตัด พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP ออกจากประเภทธุรกิจสถานบันเทิง