ด่วน! คลังเปิดรับฟังความเห็น พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร อีกรอบ

27 ก.พ. 2568 | 16:01 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.พ. 2568 | 16:39 น.
816

คลังรับฟังความเห็น ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เปิดทางตั้งกาสิโนในไทย อีกรอบ กำหนดเงื่อนไขผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท คนไทยเล่นได้หากมีเงินฝากประจำ 50 ล้าน คุมเข้มพื้นที่ กำหนดบทลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เปิดรับฟังความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (ร่างฯ ที่ สคก. ตรวจพิจารณาแล้ว เรื่องเสร็จที่ 261/2568) ระหว่างวันที่ 27 ก.พ. ถึง 13 มี.ค. 2568 ซึ่งเป็นการรับฟังความเห็นครั้งที่ 4 หลังจากก่อนหน้านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหลายประเด็น

ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกอบด้วย 7 หมวด 104 มาตรา กำหนดให้การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเป็นไปตามใบอนุญาต โดยมีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรเป็นผู้ควบคุมนโยบาย และมีสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเป็นหน่วยงานกำกับดูแล โดยมีรายละเอียดดังนี้:

คณะกรรมการนโยบายมีนายกฯ เป็นประธาน

คณะกรรมการนโยบายประกอบด้วยกรรมการโดยตำแหน่ง 12 คน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีจาก 7 กระทรวง (คลัง, ท่องเที่ยวและกีฬา, พัฒนาสังคมฯ, พาณิชย์, มหาดไทย, ยุติธรรม, สาธารณสุข) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการ BOI และเลขาธิการ ปปง. รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน 6 คน

ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในไทยและมีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท โดยใบอนุญาตมีอายุ 30 ปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ผู้รับใบอนุญาตจะได้รับการยกเว้นจากกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

คนไทยเล่นการพนันในคาสิโนได้แต่ต้องมีเงินฝากประจำ 50 ล้านบาท

ร่างกฎหมายกำหนดว่าบุคคลสัญชาติไทยที่จะเล่นพนันในคาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารกำหนด

ห้ามเล่นพนันผ่านอินเทอร์เน็ตและกำหนดมาตรการคุมเข้มพื้นที่

กฎหมายห้ามจัดให้มีการเล่นพนันในคาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือถ่ายทอดการเล่นพนันเพื่อให้บุคคลภายนอกคาสิโนเล่นพนันได้

นอกจากนี้ ผู้รับใบอนุญาตต้องแยกพื้นที่คาสิโนออกจากธุรกิจสถานบันเทิงอื่นๆ จัดทางเข้าออกและระบบลิฟต์เฉพาะสำหรับผู้เข้าคาสิโน รวมทั้งต้องมีการตรวจสอบและลงทะเบียนบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้เข้าใช้บริการ

กำหนดบทลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา

ร่าง พ.ร.บ.นี้ยังได้กำหนดบทลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา เช่น ผู้รับใบอนุญาตที่จัดพนันผิดประเภทต้องชำระค่าปรับพินัยไม่เกิน 5 ล้านบาท ผู้พาเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าคาสิโนต้องชำระค่าปรับพินัยไม่เกิน 50,000 บาท

ส่วนโทษทางอาญา เช่น ผู้จัดให้มีการเล่นพนันผ่านอินเทอร์เน็ตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากเป็นผู้รับใบอนุญาตต้องรับโทษเพิ่มเป็นสองเท่า

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตาม พ.ร.บ.นี้ หากกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ยาเสพติด หรือการค้ามนุษย์ จะต้องรับโทษเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าว

ทั้งนี้ในบัญชีแนบท้ายได้กำหนด อัตราค่าธรรมเนียม และประเภทธุรกิจสถานบันเทิง ดังนี้

อัตราค่าธรรมเนียม

การขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท

ใบอนุญาต

  • ครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท
  • รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท
  • ใบอนุญาต (ต่ออายุ) ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ  1,000 ล้านบาท
  • ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ100,000  บาท

ค่าเข้ากาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท

ประเภทธุรกิจสถานบันเทิง

1. ห้างสรรพสินค้า
2. โรงแรม
3. สถานบริการ
4. สนามกีฬา
5. ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ
6. สถานที่เล่นเกม
7. สระว่ายน้ำและสวนน้ำ
8. สวนสนุก
9. กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

โดยร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ฉบับล่าสุด ได้ตัด พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP ออกจากประเภทธุรกิจสถานบันเทิง

ที่มา: การรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (ร่างฯ ที่ สคก. ตรวจพิจารณาแล้ว เรื่องเสร็จที่ ๒๖๑/๒๕๖๘)