บิล เกตส์ กล่าวว่า มีเรื่องน่ากลัวอยู่ 4 หรือ 5 เรื่องด้วยกัน และเรื่องเดียวที่เข้าใจและกังวลมากเมื่อตอนเด็ก ๆ ก็คือ สงครามนิวเคลียร์
เกตส์ ผู้ก่อตั้ง Microsoft และประธานมูลนิธิเกตส์แบ่งปันมุมมองของเขาเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เปลี่ยนไปซึ่งสังคมต้องเผชิญ
ผมคิดว่าเราควรเพิ่ม การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การก่อการร้ายทางชีวภาพ/โรคระบาด และการควบคุมปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเข้าไปด้วย
เกตส์ยังได้อธิบายถึงความแตกแยกทางสังคมว่าเป็นปัญหา และต่อมาได้กล่าวเสริมว่า คนรุ่นใหม่จะต้องกลัวสิ่งเหล่านั้นมาก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกตส์ระบุถึงประเด็นที่น่ากังวลเหล่านี้ ในโพสต์บล็อกเมื่อปี 2023 เกตส์กล่าวว่า เมื่อครอบครัวของเขาเติบโตขึ้น ความปรารถนาที่จะทำให้โลกดีขึ้นก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การมีหลานทำให้คุณคิดถึงวิธีที่จะดูแลอนาคตให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเมือง สุขภาพ สภาพภูมิอากาศ ฯลฯ
เกตส์โต้แย้งว่าสังคมกำลังขาดแคลนความรู้ความเชี่ยวชาญ แต่เขาเชื่อว่า AI อาจเป็นทางออกมากกว่าจะเป็นปัญหา แม้บางคนจะเตือนถึงศักยภาพของ AI ที่อาจนำไปสู่หายนะ แต่เกตส์คิดว่าเราสามารถนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
เราไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มากพอ คนที่สามารถติดตามทุกอย่างได้ทัน หรือคนที่สามารถสอนคณิตศาสตร์ในเขตเมืองชั้นใน เรากำลังขาดแคลนความรู้ความเชี่ยวชาญ และเราใช้ระบบตลาดในการจัดสรร AI จะทำให้ความรู้ความเชี่ยวชาญกลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ แม้ว่าผู้คนอาจถกเถียงกันเรื่องกรอบเวลาที่จะเกิดขึ้นก็ตาม
แม้จะมีความท้าทายต่างๆ เกตส์กล่าวว่า เขายังคงเชื่อว่าประชาชนในอนาคตจะมีชีวิตที่ดีขึ้นมาก หากจัดการกับความเสี่ยงต่างๆ ได้
หากเราไม่ละเลยการแก้ปัญหาใหญ่ๆ เหล่านี้ ทุกอย่างจะดีขึ้นมาก ทั้งโรคอัลไซเมอร์ โรคอ้วน เราจะมีวิธีรักษาเอชไอวี เราจะกำจัดโปลิโอ หัด และมาลาเรียได้ ความก้าวหน้าทางนวัตกรรมในปัจจุบันนี้เร็วกว่าที่เคยเป็นมา
แม้ว่าความกลัวมักทำให้คนไม่กล้าลงมือทำอะไร แต่เกตส์เชื่อว่ามันอาจเป็นแรงผลักดันให้คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง