จับตายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทรัมป์สั่งเร่งเจรจาสันติภาพ

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า ทั้งประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูตินและประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แสดงความปรารถนาต่อสันติภาพในการคุยโทรศัพท์แยกกันกับเขาในวันพุธที่ผ่านมา และทรัมป์สั่งให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เริ่มการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน

การสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่รัฐมนตรีกลาโหมของทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ยูเครนจะต้องละทิ้งเป้าหมายที่ยึดถือกันมายาวนานในการเข้าร่วมพันธมิตรทางทหารของนาโต้และยึดดินแดนคืนทั้งหมดที่รัสเซียยึดครอง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแนวทางของวอชิงตันต่อความขัดแย้งนี้

มีรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ยินดีที่จะยอมรับการคัดค้านของทางการรัสเซียที่ไม่ยอมให้ยูเครนเข้าร่วมนาโต

พวกเขาพูดกันมานานแล้วว่ายูเครนไม่สามารถเข้าร่วมนาโตได้ และผมก็โอเคกับเรื่องนั้น

หลังจากพูดคุยกับปูตินนานกว่า 1 ชั่วโมง ทรัมป์กล่าวว่าผู้นำรัสเซียที่บุกโจมตียูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 ต้องการให้สงครามยุติลง และพวกเขาได้หารือถึง การหยุดยิงในอนาคตอันใกล้นี้

เขาต้องการให้มันจบลง ไม่ต้องการให้มันจบลงแล้วกลับมาสู้ต่อในอีกหกเดือนต่อมาผมคิดว่าเรากำลังมุ่งหน้าสู่สันติภาพ ผมคิดว่าประธานาธิบดีปูตินต้องการสันติภาพ ประธานาธิบดีเซเลนสกีต้องการสันติภาพ และผมต้องการสันติภาพ ผมแค่อยากเห็นผู้คนหยุดถูกฆ่า

ทรัมป์เคยกล่าวมานานแล้วว่าเขาจะยุติสงครามในยูเครนอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจะทำได้อย่างไร

ก่อนหน้านี้รัสเซียระบุว่าปูตินและทรัมป์ตกลงที่จะพบกัน และปูตินได้เชิญทรัมป์ให้ไปเยือนกรุงมอสโก ทรัมป์กล่าวว่าการพบกันครั้งแรกของพวกเขาอาจจะเกิดขึ้นในซาอุดีอาระเบียในเร็วๆ นี้

ในโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของทรัมป์ เขากล่าวว่า มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการซีไอเอ ไมเคิล วอลทซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ และสตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตตะวันออกกลาง จะเป็นผู้นำการเจรจาเพื่อยุติสงคราม

ทรัมป์และเซเลนสกีพูดคุยกันหลังจากที่ทรัมป์โทรหาปูติน และสำนักงานของเซเลนสกีกล่าวว่าการสนทนากินเวลานานประมาณหนึ่งชั่วโมง

การเจรจาสันติภาพยูเครนไม่ได้จัดขึ้นเลยนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนของความขัดแย้ง ซึ่งขณะนี้ใกล้จะครบรอบ 3 ปีแล้ว โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีของทรัมป์ ดูแลเงินช่วยเหลือทางทหารและความช่วยเหลืออื่น ๆ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์แก่กรุงเคียฟ และไม่ได้ติดต่อกับปูตินโดยตรงเลยหลังจากที่รัสเซียบุกโจมตี

รัสเซียยึดครองพื้นที่ประมาณหนึ่งในห้าของยูเครนและเรียกร้องให้เคียฟยอมยกดินแดนเพิ่มและยุติความเป็นกลางอย่างถาวรภายใต้ข้อตกลงสันติภาพใดๆ

ยูเครนเรียกร้องให้รัสเซียถอนตัวจากดินแดนที่ยึดครองและระบุว่าจะต้องได้รับการรับรองเป็นสมาชิกนาโตหรือได้รับการรับประกันความปลอดภัยที่เทียบเท่าเพื่อป้องกันไม่ให้มอสโกว์โจมตีอีก

มหาอำนาจยุโรป รวมถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ระบุเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า พวกเขาต้องเข้าร่วมการเจรจาในอนาคตเกี่ยวกับชะตากรรมของยูเครน โดยเน้นย้ำว่าข้อตกลงที่ยุติธรรมพร้อมการรับประกันความปลอดภัยเท่านั้นที่จะรับประกันสันติภาพที่ยั่งยืนได้ พวกเขากล่าวว่าพวกเขาพร้อมที่จะเพิ่มการสนับสนุนยูเครนและทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่ง

ก่อนหน้านี้ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับวิธีการทำสงคราม โดยกล่าวว่ายูเครนไม่สามารถหวังได้ว่าจะกลับไปยังพรมแดนเดิมหรือเข้าร่วมนาโต้ได้

เราต้องการยูเครนที่มีอำนาจอธิปไตยและเจริญรุ่งเรือง แต่เราต้องเริ่มต้นด้วยการยอมรับว่าการกลับคืนสู่พรมแดนของยูเครนก่อนปี 2014 นั้นเป็นเป้าหมายที่ไม่สมจริง

เฮกเซธกล่าวในการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของนาโตในกรุงบรัสเซลส์ ว่า การไล่ตามเป้าหมายนี้จะยิ่งทำให้สงครามยืดเยื้อและก่อให้เกิดความทุกข์ยากมากขึ้น

ในปี 2014 รัสเซียผนวกไครเมีย ซึ่งยูเครนและประเทศตะวันตกหลายประเทศถือว่าเป็นดินแดนของยูเครนที่ถูกยึดครอง

เฮกเซธกล่าวว่าสันติภาพที่ยั่งยืนจะต้องรวมถึงการรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคงเพื่อให้แน่ใจว่าสงครามจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่เขากล่าวว่ากองทหารสหรัฐจะไม่ถูกส่งไปยูเครนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการรับประกันดังกล่าว

เซเลนสกีหวังที่จะให้ทรัมป์ยังคงสนใจที่จะสนับสนุนประเทศของเขาต่อไป โดยล่าสุดได้เสนอข้อตกลงที่สหรัฐจะลงทุนในแร่ธาตุในยูเครน

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของทรัมป์ สก็อตต์ เบสเซนต์ ในระหว่างการเยือนกรุงเคียฟเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระบุว่า ข้อตกลงแร่ธาตุอาจทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้กับยูเครนหลังสงคราม

ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่ารูบิโอและรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์จะมีการเจรจาเกี่ยวกับสงครามในวันศุกร์ที่มิวนิก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของยูเครนคาดว่าจะเข้าร่วมการประชุมด้านความปลอดภัยประจำปี