ทรัมป์ลั่น! คุย “ปูติน” แล้ว วางแผนยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

10 ก.พ. 2568 | 11:20 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.พ. 2568 | 11:22 น.

โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันเคยพูดคุยกับวลาดิมีร์ ปูติน หวังยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ด้านเครมลินปฏิเสธให้ความเห็น

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่า เคยสนทนากับ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เกี่ยวกับแนวทางยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาของการสนทนา โดยให้เหตุผลว่าการพูดมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการทางการทูต โดยทรัมป์ยืนยันกับ New York Post ว่าตนมีแผนในการยุติสงครามที่ดำเนินมายาวนานเกือบสามปี แต่ขอเก็บรายละเอียดไว้ก่อน

ทรัมป์เชื่อว่าปูตินเองก็ต้องการให้สงครามจบลง โดยระบุว่า “เขา (ปูติน) อยากให้คนหยุดเสียชีวิต" และเสริมว่า "มีคนตายเป็นล้านแล้ว คนหนุ่มสาวที่ยังมีอนาคต ทั้งสองฝ่ายเหมือนลูกหลานของพวกคุณ" อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัสเซียยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้ โดยโฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยกล่าวกับสำนักข่าว TASS ว่า "ผมไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธได้ว่ามีการติดต่อกันจริงหรือไม่"

แม้ว่าทรัมป์จะเคยให้คำมั่นว่าหากกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง จะสามารถยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้อย่างรวดเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ เขายังไม่ได้เปิดเผยแนวทางที่ชัดเจนในการทำให้เป้าหมายดังกล่าวเป็นจริง ไมเคิล วอลต์ซ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่าขณะนี้มีการเจรจาทางการทูตที่อ่อนไหวเกิดขึ้น และสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ จะเดินทางไปยุโรปเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางยุติสงคราม

วอลต์ซกล่าวต่อไปว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้ยุโรปมีบทบาทหลักในการจัดการความมั่นคงในระยะยาว" พร้อมเสริมว่า "ทรัมป์จะเป็นผู้เจรจาเพื่อให้สงครามยุติลง แต่หลังจากนั้น ยุโรปจะต้องเป็นผู้นำในการรักษาความมั่นคง" นอกจากนี้ ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่าเขาอาจใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ เช่น การขึ้นภาษีและการคว่ำบาตร เพื่อกดดันรัสเซียให้เข้าสู่โต๊ะเจรจา ขณะที่ฝ่ายบริหารของเขากำลังพิจารณาข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน เช่น แร่ธาตุหายากและพลังงาน ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเพื่อแลกกับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ

รัสเซียเองก็ได้ตั้งเงื่อนไขสำหรับการยุติสงคราม โดยเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ปูตินได้แสดงจุดยืนว่าหากยูเครนต้องการให้สงครามยุติลง จะต้องยอมถอนกำลังออกจาก 4 แคว้นที่รัสเซียอ้างกรรมสิทธิ์ และต้องล้มเลิกแผนการเข้าร่วมองค์การนาโต้ ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ปูตินเปิดรับการเจรจากับทรัมป์ แต่จะไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องดินแดน และยืนกรานให้ยูเครนละทิ้งความตั้งใจเข้าร่วม NATO

ในขณะเดียวกัน ลีโอนิด สลุตสกี หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศของรัฐสภารัสเซีย เปิดเผยกับสื่อ RIA ว่าการเตรียมความพร้อมสำหรับการพบกันระหว่างทรัมป์กับปูตินอยู่ใน "ขั้นตอนที่คืบหน้า" และอาจมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม หากเกิดขึ้นจริง นี่จะเป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างทรัมป์กับปูติน หลังจากอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยสนทนากับปูตินครั้งสุดท้ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ก่อนที่รัสเซียจะสั่งบุกยูเครน

แม้ว่าทรัมป์จะยืนยันว่าเขาสามารถยุติสงครามได้ แต่หลายฝ่ายยังคงตั้งคำถามว่าข้อเสนอของเขาจะช่วยให้เกิดสันติภาพได้จริงหรือไม่ นักวิเคราะห์บางคนมองว่าหากทรัมป์มีแผนที่รวมถึงการลดการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน อาจทำให้รัสเซียได้เปรียบมากขึ้น

ในขณะที่สงครามยังดำเนินต่อไป มอสโกยังคงควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของยูเครน ซึ่งมีขนาดเทียบเท่ารัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ และมีการเคลื่อนกำลังพลในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นของสงคราม ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ กำลังพิจารณาถึงแนวทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับสงครามในยูเครน โดยมีรายงานว่าทรัมป์อาจเจรจากับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรของยูเครนแลกกับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ