เอ็มจี เตรียมเปิดตัว MG ZS Hybrid ที่ยกขุมพลังมาจาก MG 3 Hybrid แฮตช์แบ็ก ประกอบในประเทศ และอีกรุ่นคือ MG IM6 EV นำเข้าจากจีน
เอ็มจี ปิดยอดขายปี 2567 ได้ 17,239 คัน ลดลง 37% เมื่อเทียบกับปี 2566 ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 3% ยึดอันดับ 7 ในตลาด ปัจจุบันมียอดขายสะสม 200,000 คัน หลังดำเนินธุรกิจในไทยไทยมา 10 ปี
เอ็มจีเตรียมเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของการทำตลาดในไทย ด้วยโปรดักต์ใหม่ และวางเครือข่ายการขายที่แข็งแกร่ง พร้อมตั้งเป้าขึ้นไปติดท็อป 3 ของตลาดรถยนต์ไทยให้ได้ ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งให้ถึง 5%
นาย ซูว หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา เอ็มจี แนะนำรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ MG MAXUS 7 รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง e-MPV และ ALL NEW MG3 HYBRID แฮทช์แบ็คในกลุ่ม B-segment
ในปี 2567 เอ็มจี กำหนดทิศทางและกลยุทธ์การตลาดที่มีผลิตภัณฑ์ยานยนต์คุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยครบทุกเซกเมนต์ ทั้งเครื่องยนต์สันดาป ไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งสร้างรากฐานของระบบนิเวศของแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งโชว์รูมและบริการหลังการขาย
ขณะเดียวกันยังเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ประกาศเพิ่มของการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) ส่วนปีนี้ เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 รุ่น โดยเตรียมเปิดตัวภายในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2025
“ปี 2568 เราวางเป้าหมายครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 5% และวางหมุดหมายสำคัญในทศวรรษที่ 2 โดยการขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์ท็อป 3 ของประเทศไทยด้วยการนำเสนอยานยนต์คุณภาพ ทั้งในกลุ่มเครื่องยนต์ไฮบริด และเครื่องยนต์ไฟฟ้า” นาย ซูว หยิ่น กล่าวสรุป
ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่น ที่เอ็มจี เตรียมเปิดตัวต้นปี 2568 คาดว่าจะเป็น MG ZS Hybrid ที่ยกขุมพลังมาจาก MG 3 Hybrid แฮตช์แบ็ก โดยขึ้นไลน์ประกอบที่โรงงาน เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จ.ชลบุรี และอีกรุ่นคือ MG IM6 EV รุ่นใหม่ที่นำเข้ามาจากจีน
สำหรับ MG ZS Hybrid+ เปิดตัวแล้วในประเทศอังกฤษ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 196 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 465 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 1.83 kWh
ส่วน MG IM6 EV เอสยูวีช่วงล่างถุงลม การขับเคลื่อนใช้มอเตอร์คู่หน้า-หลัง ให้กำลังสูงสุด 787 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ทำได้ 3.48 วินาที แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ ความจุ 100 kWh วิ่งได้ระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง