กลุ่มตกหล่น 200,000 ราย สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้รับเงินสด 10,000 บาท ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดย กระทรวงการคลัง ได้โอนจ่ายครั้งแรกวันจันทร์ ที่ 27 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่ายังมีกลุ่มตกหล่นอีกจำนวน 200,000 ราย
กระทรวงการคลัง ได้กำหนดตารางโอนเงินซ้ำจำนวน 3 รอบ ดังต่อไปนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร”ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT 2HD และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศโดยนายกรัฐมนตรีกล่าวเรื่อง เงินหมื่นเฟส 3 ยืนยันว่ามาแน่ ส่วนปัญหาอาชญากรรมเทคโนโลยี ได้เดินหน้าตัดวงจรอย่างเด็ดขาด โดยย้ำถึง โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3 ล้านคน รวม 30,000 ล้านบาท ว่า ทำให้ประชาชนสามารถนำเงินหมื่นไปต่อยอดทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ขอชื่นชมกระทรวงการคลังที่ผลักดันนโยบายจนเกิดผลสำเร็จ พร้อมทั้งยืนยันว่า เงินหมื่นเฟส 3 มีแน่นอน สำหรับรายละเอียดทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด
กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนที่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 ได้กำหนดเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 รวมกันเกิน 500,000 บาท โดยเป็นการตรวจสอบเงินฝาก จำนวน 6 ประเภท ได้แก่
1.เงินฝากกระแสรายวัน
2.เงินฝากออมทรัพย์
3.เงินฝากประจำ
4.บัตรเงินฝาก
5.ใบรับฝากเงิน ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ (1) – (5)โดยเงินฝากให้หมายถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม
6.ต้องไม่เป็น
ในเบื้องต้น กระทรวงการคลัง ได้กำหนดกรอบการลงทะเบียนเงินดิจิทัลเฟส 3 โดยเปิดให้ลงทะเบียนระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน 2568 การใช้จ่ายเงิน 10,000 บาทเฟสที่ 3 ใช้จ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น.