เงินดิจิทัล10,000 บาทเฟส 2 อายุ 60 ปีขึ้นไปอย่าลืมตรวจสอบสิทธิวันที่ 22 ม.ค.

20 ม.ค. 2568 | 11:44 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ม.ค. 2568 | 11:51 น.
19.3 k

แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป สิทธิ์ของท่านไม่หายใน 2 วันสุดท้าย ก่อนรัฐบาลกดปุ่มโอนจ่ายเช้าจันทร์ที่ 27 มค.นี้ รัฐบาลฝากลูกหลานช่วยตรวจสิทธิพ่อแม่ปู่ย่าตายายผ่านแอป “ทางรัฐ” ให้ด้วย

วันที่ 20 มกราคม 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดยภาครัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาท ในเฟส 2 นี้ให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปกว่า 4 ล้านคนนั้น ขอย้ำเตือนผู้ที่มีสิทธิตามโครงการฯ เร่งตรวจสอบสิทธิ์ในสองวันสุดท้าย ทั้งนี้หากผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่สะดวกหรือไม่เชี่ยวชาญในเรื่องการลงทะเบียนรัฐบาลขอความกรุณาให้ลูกหลานหรือคนในครอบครัว ช่วยเร่ง ตรวจสอบและดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ์ ให้แล้วเสร็จภายในวันพุธที่ 22 มกราคม นี้เพื่อรอรับการจ่ายเงินในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2568

“เรื่องสำคัญที่จะทำให้ไม่พลาดในการรับเงินสนับสนุน 10,000 บาทดังกล่าว ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่าบัญชีของผู้มีสิทธิ ยังคงมีสถานะปกติที่สามารถรับเงินโอนได้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568 นี้”

สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไข สามารถตรวจสอบสิทธิการได้รับเงินในโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ตั้งแต่วันพุธที่ 22 มกราคม 2568 นี้เป็นต้นไปด้วยวิธีการ ดังนี้

  • เปิดแอปทางรัฐ เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ
  • ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กดปุ่มยืนยันข้อมูล
  • กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
  • กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ
  • กดปุ่มอนุญาต ให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และ
  • ระบบจะแสดงผลสถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่าอยู่ในขั้นตอนใด หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือไม่ได้รับสิทธิ หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท

แจกเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 2

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวต่อไปว่า “การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นการขยายผลกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพให้แก่กลุ่มเปราะบางให้ครอบคลุมกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้สูงอายุจะสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการตามความจำเป็นของตน ช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว นอกจากนี้การดำเนินโครงการฯ จะช่วยส่งเสริมความอยู่ดีมีสุข (Well-being) ของผู้สูงอายุให้ดีขึ้นรอบด้านอีกด้วย” นางสาวศศิกานต์ กล่าว.