แค่เฝ้าดูจิต มนุษย์ทุกคน เข้าถึงธรรมได้

13 มี.ค. 2568 | 06:00 น.

แค่เฝ้าดูจิต มนุษย์ทุกคน เข้าถึงธรรมได้ คอลัมน์ ทำมาธรรมะ โดย ราชรามัญ

ถ้าเข้าใจคำว่า ธรรม ที่พระพุทธเจ้าสอนทุกคนก็สามารถเข้าถึงได้ และการเข้าถึงในที่นี้ ไม่ใช่เกิดจากการอ่าน หรือ เกิดจากการปฏิบัติ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เกิดจากภาวะของจิตใจที่พร้อมเข้าใจเข้าถึงต่างหาก...

"เพราะมีสิ่งนี้ จึงมีสิ่งนี้ 
เพราะไม่มีสิ่งนี้ จึงไม่มีสิ่งนี้"

นั่นหมายความว่า ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุปัจจัย อาศัยซึ่งกันและกัน จึงเกิดขึ้น และทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ที่ดับไป ก็พึงอาศัยเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน จึงทำให้ดับไป

ถ้าเข้าใจได้อย่างนี้ หลายคนก็เกิดคำถามขึ้นอีกว่า กิเลสทั้งหลายที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะเมื่อเกิดกิเลสแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องความโลภโกรธหลง ความทุกข์ก็ย่อมเกิดตามมา ดังนั้นการที่จะบรรเทาทุกข์ลงหรือจนหมดทุกข์เลยนั้น เราทุกคนก็ต้องเห็น การที่กิเลสเกิดขึ้น ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ดับไป ดับไปด้วยเพราะอะไร เมื่อเข้าใจ อย่างลึกซึ้งตรงนี้ ความทุกข์ทั้งหลายก็บรรเทาลงเอง โดยอัตโนมัติ

วันหนึ่ง เคยนั่งนิ่งๆเงียบๆ บนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง ทอดสายตายาวออกไป ในใจก็ไม่มีความคิดความรู้สึกอะไรใดๆทั้งสิ้นเลย ใจสงบ แต่ประกอบด้วยปัญญา สบายๆ ผ่อนคลาย ในทุกๆอิริยาบถ

แต่พอได้ยินเสียงอะไรมากระทบที่หูหรือตาได้เห็นอะไรเข้ามากระทบ เมื่อนั้น ความรู้สึกก็เกิดขึ้น ทั้งชอบไม่ชอบ ทั้งโกรธทั้งหลง จากที่นั่งนิ่งๆเงียบๆ ก็เกิดอาการแบบนี้ขึ้น เราจึงจับจุดได้ว่า กิเลสทั้งหลาย มันเกิดขึ้นเพราะมีการกระทบด้วยกันทั้งสิ้น ก็อยู่ในข้อธรรมที่ว่า เพราะมีสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้

เพราะมีสิ่งนี้ คือตาหรือหู ไปได้ยินไม่ได้เห็น จึงมีสิ่งนี้ ก็คือผลลัพธ์ ที่ชอบไม่ชอบและเป็นกิเลสในที่สุด จึงสรุปได้คร่าวๆ ว่ากิเลสนั้น ใช้ที่จริงมันไม่มีหรอก แต่มันมามีต่อเมื่ออะไรเข้ามากระทบ แล้วเราใส่ความรู้สึกลงไป ทั้งชอบและไม่ชอบ

ถ้าเรามีหลักการ ในการสังเกตจิตใจ เวลามีอะไรเข้ามากระทบ แล้วก็มีสติมากพอที่จะเข้าไปดู ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในใจหรือไม่ เมื่อได้กระทบทั้งภาพทั้งเสียงทั้งนั้นแล้ว ถ้าไม่เกิดความรู้สึกใดๆ นั่นหมายความว่าใจเราสูงขึ้น ใจเราเข้าใจมากขึ้น ว่าสิ่งที่เขามากระทบนั่นแหละ เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกิเลส เมื่อมีกิเลสก็มีความทุกข์

ถ้าทุกคนมีจิตใจ ที่คอยเฝ้าดูความรู้สึกของตัวเองเสมอ ในวันหนึ่งๆ อยู่ตลอดเวลา ก็จะเห็นว่าวันหนึ่งเรามีกิเลสกี่ครั้ง เมื่อมีอะไรเข้ามากระทบตากระทบหู เมื่อมีสติเข้าไปเรียนรู้สังเกตบ่อยๆ ไม่ช้าไม่นานเวลาอะไรเข้ามากระทบ ก็จะเกิดความคิดความรู้สึกน้อยลงไปตามลำดับ ไม่เข้าไปวิเคราะห์วิจารณ์ ไม่เข้าไปตัดสิน ไม่เข้าไปแสดงความคิดเห็น เฝ้าดูเฝ้ารู้อยู่ในใจ แล้วก็วาง ผู้ที่เข้าใจธรรมะ ว่าการเข้าถึง ทำอันยิ่ง ก็จะมองมุมนี้ออกว่า แท้ที่จริงแล้ว ปัญญาในธรรมทั้งปวง เกิดขึ้นเพราะ ตรงนี้แบบนี้ ในสภาวะปัจจุบันขณะต่างหาก

ไม่ว่าคุณจะสูงต่ำดำขาว คนไทยคนจีนคนพม่าคนแขก ถ้าคุณเข้าใจว่าทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นเพราะการเชื่อมโยงกันและกัน ดั่งคำที่กล่าวมาเบื้องต้นว่าเพราะมีสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้ ทุกคนก็เฝ้าดูเฝ้าสังเกตก็จะสามารถ เข้าถึงธรรมได้

ถ้าเราไปเชื่อว่า การเข้าถึงธรรม ต้องปฏิบัติกันข้ามภพข้ามชาติเลยจึงบรรลุ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เมื่อ ณ เวลาที่โลกนี้ยังไม่มีพระพุทธเจ้ามาบรรลุธรรม โลกนี้ยังไม่มีพระอรหันต์ แต่เมื่อโลกนี้มีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แล้ว การบรรลุธรรมจากการปฏิบัติข้ามภพข้ามชาติคงเป็นเรื่องล้าสมัยอย่างแท้จริง เพราะโลกนี้มีพระพุทธเจ้าทรงสอนแล้วนั่นเอง

ดังนั้นชาตินี้ทุกคนสามารถบรรลุธรรมได้ ถ้ามีจิตใจปรารถนาอย่างแรงกล้า เพราะธรรมะดุจล้อเกวียนมีดุม คือ จับส่วนไหนก็เชื่อมโยงไปถึงกันหมดทั้งสิ้น และที่สำคัญไม่ต้องรอข้ามภพชาติ เอาจริงจังตั้งแต่วันนี้เดี๋ยวนี้เลย ในการเฝ้าดูจิต ลงมือทำจริงๆ ก็จะเห็นของจริงด้วยตัวเอง