สรุปสินเชื่อเช่าซื้อ "รถกระบะใหม่" บสย. ค้ำประกันฟรี 3 ปีแรก

22 มี.ค. 2568 | 07:12 น.

สรุปมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก เช็ครายละเอียด เงื่อนไข คุณสมบัติ ไทม์ไลน์ รวมไว้ที่นี่

รัฐบาลปักธงช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่จำเป็นต้องมี “รถกระบะ” ไว้ขนข้าวของ สินค้า และพืชผลทางการเกษตร ล่าสุดได้ออกมาตรการใหม่ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เป็นมาตรการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ “SMEs PICK-UP” ของ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่ปลดล็อกข้อจำกัดทางการเงินให้กับ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีความจำเป็นต้องซื้อรถกระบะใหม่ 

ทั้งนี้ บสย. จะช่วยชดเชยความเสี่ยง ด้วยการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์) ในการปล่อยสินเชื่อ ช่วยเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) ให้กับ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยที่มีความจำเป็นต้องใช้รถกระบะเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ เช่น เกษตรกร ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งสินค้า ค้าขาย และฟู้ดทรัค เป็นต้น

รายละเอียดมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”

มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” กำหนดวงเงินค้ำประกันในระยะแรกจำนวน 5,000 ล้านบาท มีจุดเด่นช่วยผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ลดภาระทางการเงิน ด้วยสิทธิประโยชน์ ดังนี้

  • ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก (รัฐบาล กระทรวงการคลังเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ ส่วนปีที่ 4-7 คิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันต่ำเพียง 1.5% ต่อปี) 
  • การค้ำประกันนานสูงสุด 7 ปี หรือ 84 งวด 
  • วงเงินค้ำประกันสูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อราย 
  • วงเงินค้ำประกันในระยะแรกจำนวน 5,000 ล้านบาท

กลุ่มเป้าหมายมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”

  • กลุ่มเป้าหมาย คือ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ที่ขอสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับซื้อรถกระบะใหม่เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ 

ไทม์ไลน์มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”

  • เปิดรับคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 
  • สิ้นสุดรับคำขอค้ำประกันภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 

ทั้งนี้ บสย.ประเมินว่า จะช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการซื้อรถกระบะใหม่ เข้าถึงสินเชื่อได้กว่า 6,250 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบกว่า 5,000 ล้านบาท และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 21,000 ล้านบาท และยังช่วยพลิกฟื้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทยได้มากกว่า 2,500 บริษัท