นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง มีแผนดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจีดีพีไตรมาสที่ 1 ของปี 68 คาดจะเติบโตได้ 3.4% สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ซึ่งมาจากแรงส่งการบริโภค การท่องเที่ยว แต่ จะมีปัญหาใน อุตสาหกรรม รถยนต์ ที่คนขอกู้ไม่ผ่าน ซึ่งรัฐบาลพยายามเข้าไปแก้ปัญหา
โดยจะนำร่องให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้าไปช่วยค้ำประกัน แก่ผู้ที่ต้องการซื้อรถกระบะ เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่กำลังดูรายละเอียดข้อกฎหมาย คาดจะเริ่มได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้
นอกจากนี้ ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ประสบปัญหาเช่นกัน ก็จะมีการหารือถึงการผ่อนคลายมาตรการกำกับสินเชื่อ LTV สำหรับคนกู้ซื้อบ้านหลังที่สอง เพราะเป้าหมายของ LTV เพื่อต้องการสกัดการเก็งกำไร แต่ปัจจุบันยังไม่เห็น สัญญาณดังกล่าว หรือเกิดฟองสบู่ จึงจะต้องดูว่าจะมีการผ่อนคลายได้มากน้อยแค่ไหน
"เพราะวันนี้คนที่มีบ้านหลังแรกแล้วและต้องการบ้านหลังที่สองเพิ่มเพื่ออยู่อาศัยจริงก็มี ซึ่งถือเป็นการเพิ่มกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ ดีกว่าเก็บไว้เป็นเงินฝาก"
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างชัดเจน เห็นได้จากตัวเลขปี 67 ที่ขยายตัวต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เต็มศักยภาพ รัฐบาลจึงมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา โดยเฉพาะช่วงปลายไตรมาส 2 ต่อเนื่อง ไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงโลซีซั่นของการท่องเที่ยว คลังก็จะมีมาตรการออกแพ็คเก็จสินเชื่อ เติมเงินเข้าระบบเพิ่มอีก
ส่วนประเด็นพูดเรื่องตลาดหุ้นไปนั้น ไม่ได้มีเจตนารมณ์ เพื่อต้องการวิพากษ์วิจารณ์นักลงทุน แต่ต้องการสื่อสารเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่การสื่อสารที่สั้นเกินไป หากเกิดความคลาดเคลื่อน ต้องขออภัย เพราะต้องการพูดถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในบริบทของตลาดหุ้น ซึ่งราคาหุ้นในปัจจุบันไม่ได้สะท้อนพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง
"การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยไม่ได้สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจที่แท้จริง แต่ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทั้งความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของระบบการค้าโลก และยังไม่ถูกกระทบอย่างรุนแรงเหมือนประเทศอื่น ๆ“