เลือกตั้งสหรัฐสั่นสะเทือนถึงหุ้นไทย

04 พ.ย. 2567 | 05:30 น.

เลือกตั้งสหรัฐสั่นสะเทือนถึงหุ้นไทย คอลัมน์ เทคนิคพิชิตหุ้น โดย ศุภพงศ์ เอี่ยมคงเอก

KEY

POINTS

  • สัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง หากจะมีปัจจัยอะไรที่จะมาตัดสินตลาดได้ก็คงหนีไม่พ้นการเลือกตั้งสหรัฐที่ใกล้เข้ามา
  • นโยบายต่าง กลุ่มหุ้นที่ได้หรือเสียผลประโยชน์ก็ต่าง ก็ขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนในตลาดจะเห็นชอบการการวางนโยบายของใครมากกว่ากัน
  • น่าจับตาการเลือกตั้งสหรัฐ การเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะมีผลสะเทือนถึงตลาดหุ้นไทยไม่มากก็น้อย

เลือกตั้งสหรัฐสั่นสะเทือนถึงหุ้นไทย คอลัมน์ เทคนิคพิชิตหุ้น โดย ศุภพงศ์ เอี่ยมคงเอก

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ทำท่าจะเกือบหลับพยายามจะกดให้หลุดแนวรับแต่สุดท้ายก็ปิดสัปดาห์กลับมาได้ ซึ่งย้อนความว่าการเด้งรอบนี้ไม่ได้แปลว่า การปรับฐานรอบนั้นหมดแล้ว สิ่งที่ต้องสังเกตยังคงเป็นตัวเลขแถวๆ 1480 ที่หาก SET ผ่านได้จะเป็นการกลับไปวัด high เก่าที่สูงกว่า 1500 ในทางกลับกันหากผ่านไม่ได้ให้นึกไว้เลยว่า SET จะปรับฐานอีก 50 จุดหรือมากกว่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงหากจะมีปัจจัยอะไรที่จะมาตัดสินตลาดได้ก็คงหนีไม่พ้นการเลือกตั้งสหรัฐที่ใกล้เข้ามา

การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งที่น่าสนใจตรงที่ เรายังไม่สามารถเดาถึงผู้ชนะได้แม้การเลือกตั้งใกล้เข้ามาถึง โดยปกติแล้วครั้งที่ผ่านๆ มายิ่งใกล้วันเลือกตั้งเรายิ่งมั่นใจว่าใครคือตัวเต็งแต่ครั้งนี้คะแนนระหว่างผู้ถ้าชิง 2 คนนั้น ใกล้เคียงกันมาก หลังจากการเปลี่ยนครั้งสำคัญของเดโมแครต ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่เลือกถอดโจ ไบเดนและเลือกส่ง กมลา แฮร์ริส มาถ้าชิงกับ โดนัลด์ ทรัมป์ แทน

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ตัวเต็งแต่เราสามารถฟันธงได้เลยว่า ในระยะสั้นนี้ตลาดหุ้นสหรัฐจะเจอกับความผันผวนสูงแน่นอน และแน่นอนว่าสัปดาห์นี้ SET คงไม่ได้อยู่นิ่งเหมือนในสัปดาห์ที่ผ่านมา

หากเจาะลึกเข้าไปดูนโยบายของผู้ถ้าชิงทั้ง 2 ท่านจะพบว่า สิ่งที่เหมือนกันคือการเพิ่ม Government spending หรือการเพิ่มการอัดฉีดจากการใช้จ่ายจากภาครัฐ เพียงแต่ว่าเงินที่หามาอัดฉีดนั้นมาจากแหล่งที่ต่างกัน แฮร์ริสหาเงินจากการเพิ่ม tax ของคนมีรายได้มาก ในทางกลับกันทรัมป์ลดภาคส่วนการทหารเพื่อมาเพิ่ม Government spending แน่นอนว่าจุดมุ่งหมายเหมือนกันแต่คนได้รับผลกระทบนั้นต่างกัน และแน่นอนกว่านั้นตลาดทุนกลุ่มที่ได้หรือเสียผลประโยชน์ก็ยิ่งต่างกัน เพราะหากดูนโยบาย 2 ผู้ถ้าชิงนี้มีหลายอย่างต่างกัน เช่น การสนับสนุน Green Energy การส่งออก การนำเข้า หรือแม้กระทั่งการสนับสนุนการลงทุนของบริษัทเอกชน 

พูดง่ายๆก็คือ นโยบายต่าง กลุ่มหุ้นที่ได้หรือเสียผลประโยชน์ก็ต่าง ก็ขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนในตลาดจะเห็นชอบการการวางนโยบายของใครมากกว่ากัน ซึ่งคำตอบนี้ตลาดจะตัดสินให้เราเห็นเอง


หากเราดูทั้ง 2 ภาพ เป็นภาพเดียวกันของดัชนี S&P500 timeframe 30 นาที แต่เป็นคนละมุมมอง หากเรามองว่าตลาดจะตอบรับในเชิงลบเราก็สามารถมองแบบภาพที่ 1 ได้ว่ามีโอกาสเป็น Head&Shoulders

ส่วนในภาพที่ 2 หากเรามองบวกก็สามารถมองได้ว่าลงมาแนวรับของแนวโน้มขาขึ้นได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นน่าจับตาการเลือกตั้งสหรัฐให้ดี การเลือกตั้งนี้น่าจะมีผลสะเทือนถึงตลาดหุ้นไทยไม่มากก็น้อย