3 เรื่องแปร่งๆ ในรัฐบาลเศรษฐา

09 พ.ย. 2566 | 16:15 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2566 | 16:24 น.
1.1 k

3 เรื่องแปร่งๆ ในรัฐบาลเศรษฐา คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย…กาแฟขม

 ...SvS... หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,938 ระหว่างวันที่ 9-11 พ.ย.2566 โดย...กาแฟขม

...SvS... เปิดมาฉบับนี้ต้องขอแสดงความยินดีไว้ล่วงหน้ากับข้าราชการที่นายกฯเศรษฐา ทวีสิน สั่งการลงไปแล้วให้ศึกษาเรื่องปรับเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งจะเป็นการปรับอีกครั้งในรอบ 9 ปี หลังจากปรับครั้งสุดท้ายในปี 2557 ยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีควบหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สมัยแรก ที่ปรับให้ 10% ทั้งระบบ 

ทั้งนี้จำนวนข้าราชการทั้งหมดประมาณ 2 ล้านคน คงได้ปรับลดปลดหนี้กันบ้าง แต่ที่สำคัญปรับขึ้นเงินเดือนแล้วต้องคำนึงประสิทธิภาพในการทำงานรับใช้ประชาชนด้วย ต้องเข้าใจให้ตรงกันและยํ้าเตือนตัวเองเสมอ ท่านคือผู้รับใช้ประชาชน ไม่ใช่เจ้านายประชาชน ฉะนั้นขั้นตอนหรือกฎที่หยุมหยิมต่างๆ ในการให้บริการให้ประชาชนมีความสะดวกต้องลดลงและทำทันที

  ...SvS... ว่าด้วยขั้นตอนและระเบียบราชการ ก็ให้คิดขึ้นมาได้ กับค่าปรับทางราชการ กรณีทำบัตรประชาชน อันนี้อยู่ที่เขต อยู่ที่อำเภอ วันก่อนมีเหตุให้ต้องไปทำบัตรใหม่ แต่ล่าช้าไปร่วม 2 เดือน เจอค่าปรับเป็นพินัย ที่นำมาใช้ใหม่ เป็นค่าปรับที่ต้องชำระให้รัฐแทนโทษทางอาญา สำหรับผู้กระทำผิดไม่ร้ายแรง ไม่กระทบความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เจอปรับไป 100 บาท ก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าเป็นค่าปรับสูงสุดหรือไม่ สำหรับ 100 บาท คำตอบก็คือ สูงสุด ก็ถามต่อว่ามีลดได้หรือไม่ เช่น ปรับสัก 50 บาท ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ได้ เขาปรับ 100 บาทกันมานานแล้ว ที่ต้องถามเพราะเงิน 100 บาทขึ้นกับว่าอยู่ในมือใคร อยู่ในมือคนรายได้น้อย ก๋วยเตี๋ยว 2 ชามประทังชีวิตได้ หรือขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดง สีม่วงได้ 4 เที่ยว เผื่อลุงนิด ป้าน้อย ข้างบ้านแกเบลอลืมวันเวลาหมดอายุไปบ้าง จะเหลือเงิน 50 บาทให้หลานได้กินขนม

 ...SvS...นอกจากข้าราชการจะได้ยิ้มแล้ว ผู้ใช้แรงงานก็จะมีเฮเช่นกัน เมื่อมีการศึกษาจะขึ้นค่าแรงขั้นตํ่าไปที่ 400 บาทต่อวัน ตามที่นายกฯเศรษฐา ว่าไว้ในสภาฯ แต่จะถึงหรือไม่ ก็คงต้องคุยกับหลายฝ่าย โดย รมว.แรงงานต้องหารือกับนายจ้างด้วย แต่ไม่ใช่ 400 บาททั้งประเทศ เห็นว่าต้องไปดูตามพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่รมว.แรงงานกำลังพูดคุยกันอยู่ จะให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ 1 ม.ค.2567 นี้ 

การปรับขึ้นค่าแรงเป็นนโยบายหาเสียงสำคัญของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่จะลากไปที่ 600 บาทต่อวัน ในปี 2570 ซึ่งต้องไม่ลืมปัจจัยประกอบหลายประการ ทั้งการลงทุน การประกอบธุรกิจ ใส่ไปเต็มทีเดียว นักลงทุนก็อาจเบนเป้าไปที่อื่นได้ ไม่ขยับปรับเลยผู้ใช้แรงงานก็ไม่สามารถประทังชีวิตได้ต้องหาจุดสมดุลและอธิบายเหตุและผลให้ได้

...SvS...น่าจะตอกยํ้าเศรษฐกิจค่อนข้างฝืดๆ เมื่อกระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุด เดือนต.ค. 2566 ติดลบ 0.31% ครั้งแรกในรอบ 25 เดือน จากการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน และสินค้าอุปโภค-บริโภค เนื่องจากมาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐ รวมทั้งเนื้อสุกร และผักสด ที่ราคาตํ่ากว่าปีที่ผ่านมา 

สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก สูงขึ้น 0.66% เงินเฟ้อระดับนี้ทำให้ไทยอยู่กลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อตํ่าอันดับ 8 จาก 130 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และยังคงตํ่าที่สุดในอาเซียนจาก 7 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย) โดยอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอตัว และเดือน พ.ย.นี้เงินเฟ้อก็น่าจะลดลงอีก เพราะเดือน พ.ย. ปีก่อนฐานสูงไปแล้ว และมีสินค้าหลายรายการที่ถูกตรึงไว้

...SvS...ว่าด้วยเรื่องรัฐบาลเสียหน่อยดูแปร่งๆ ยังไงชอบกล และมีการปะทะกันอยู่ในที ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ด้วยไปเห็นการหักกันอยู่ 2-3 กรณี อย่างแรกว่าด้วยการปรับราคานํ้าตาล ที่ถูกเสนอปรับ 4 บาทต่อกิโลกรัม ไฟเขียวมาจากรัฐมนตรีอุตสาหกรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องการได้เงินไปโปะให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย แต่กระทรวงพาณิชย์กลับแตะเบรกหัวคะมำ เมื่อขอคุมและประกาศราคาเองในทุกขั้นตอน นัยว่าเพื่อคุ้มครองปกป้องผู้บริโภค 

กรณีถัดมาปะทะเล็กๆ ระหว่างกระทรวงเกษตรฯภายใต้การบริหารการนำของพรรคพลังประชารัฐ ว่าด้วยเงิน 1,000 บาท ช่วยชาวนาที่พรรคเพื่อไทย ทั้งนายกฯ และรมต.พาณิชย์ ขอดูก่อน 

ตามด้วยกรณีที่ไม่ชอบใจนัก จากการรับอดีตผู้บริหารกระทรวงคมนาคมกลับเข้ามารับราชการใหม่ หลังจากลาออกไปในยุคพรรคภูมิใจไทยครองคมนาคม 

ทั้งหมดยังไม่ถึงกับเล่นดนตรีคนละคีย์ และไม่ถึงกับรอยปริของรัฐบาลผสม 3 เดือนแรกนี้ยังคงหวานชื่นกันอยู่ หลังจากนี้เป็นเรื่องอนาคต ที่เซียนการเมืองวิเคราะห์ฟันธงไว้ล่วงหน้า ถ้าไม่ล่มก็อาจมีการเปลี่ยนตัวกัปตัน มีปัจจัยประกอบพอให้แลเห็น เมื่อมีการขยับปรับทัพในพรรคแกนนำ การเล่นบทนำ บทตาม และเสียง ส.ส. นักการเมืองที่เป็นฐานอำนาจคํ้านายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่นายกฯ นิดแทบไม่มีเลย

...SvS...ปิดท้ายกับงานใหญ่ ไม่ไปไม่ได้ เมื่อเครือเนชั่นจัดงาน HELTH&WELTH Expo 2023 Hall 5-6 ศุนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 9-12 พ.ย.นี้ มหกรรมงานแสดงสินค้าเพื่อความรู้และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและความมั่งคั่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข จะมาเปิดงาน มีการพูดคุยให้ความรู้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านสุขภาพ อาหารการกิน และที่อยู่อาศัย มีการประมูลคอนมิเนียม บ้านราคาลดกระหนํ่ากว่า 50% ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ไปงานนี้ได้ครบจบเรื่องสุขภาพ การใช้ชีวิต บันเทิงใจกับคอนเสริต์ปิดท้ายทุกวัน