วิกฤตยูเครนและพลังอำนาจของรัสเซีย ผ่านมุมมองอดีตขุนคลัง "ธีระชัย"

24 มี.ค. 2565 | 08:35 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มี.ค. 2565 | 15:52 น.
699

อดีตขุนคลัง "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" สะท้อนมุมมองว่าด้วยการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตก และการโต้กลับของปูตินที่ทำให้รัสเซียสามารถพลิกสถานการณ์ นอกจากจะทำให้เงินรูเบิ้ลแข็งค่าขึ้นแล้ว ชาติยุโรปกลับเป็นฝ่ายถูกบีบเสียเอง  

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thirachai Phuvanatnaranubala วานนี้ (23 มี.ค.65) นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนและผลกระทบที่เกิดขึ้น ดังนี้

 

ปูตินต้อนรับโจ ไบเดนสู่ประชุมนาโต้

ขณะนี้ คะแนนนิยมของโจ ไบเดน ในด้านเศรษฐกิจตกต่ำมาก และเลือกตั้ง mid term เดือน พ.ย. 2022 ก็มีแนวโน้มจะแพ้ทั้งสภาสูงและสภาล่าง

มีประเด็นเดียวที่โจ ไบเดน ได้คะแนนนิยมสูง คือการสนับสนุนยูเครนสู้กับรัสเซีย ซึ่งคนอเมริกันติดตามเหมือนดูหนังคาวบอย

ประธานาธิบดีสหรัฐไล่ต้อนประธานาธิบดีรัสเซีย ไม่ใช้ลูกกระสุนแม้แต่ลูกเดียว แต่ใช้กติกาด้านเศรษฐกิจที่กำหนดเอาเอง

ที่ผ่านมา สหรัฐเป็นหัวหอก กระตุ้นให้ยุโรปเดินตาม บล็อคธนาคารรัสเซียออกจากระบบ swift และยึดอายัดทุนสำรองของธนาคารชาติรัสเซียไว้เกือบ 3 แสนล้านดอลลาร์

มาตรการดังกล่าว ทำให้ธนาคารชาติรัสเซียแขนขาด้วนฉับพลัน ไม่มีเครื่องมือที่จะดูแลค่าเงินรูเบิ้ล รูเบิ้ลจึงร่วงไหลลง จะกลายเป็นเศษกระดาษ

นับว่าเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยใช้มาก่อน กับประเทศขนาดใหญ่ระดับ G20 เช่นรัสเซีย

 

สัปดาห์หน้า โจ ไบเดนจะเดินทางไปประชุมที่ยุโรป เพื่อขันน๊อต บีบคอปูตินให้หนักขึ้นไปอีก ซึ่งจะเรียกคะแนนนิยมในสหรัฐไปด้วยในตัว

แต่เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ปูตินได้ออกมาตรการต้อนรับโจ ไบเดน เสียแล้ว

  • รูป 1 บลูมเบิร์กพาดหัวข่าวใหญ่ ปูตินจะขอให้ประเทศที่ไม่เป็นมิตร ต้องจ่ายค่าก๊าซ ในสกุลรูเบิ้ล

(ขอบคุณภาพจากเพจ FB: Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)

  • รูป 2 ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุมกับเจ้าหน้าที่ในกรุงมอสโคว

ทำให้เกิดผลทันที 2 อย่าง ราคาก๊าซในตลาดเนเธอร์แลนด์พุ่งขึ้นฉับพลัน 21% และค่าเงินรูเบิ้ลแข็งขึ้นทันตาเห็น

(ขอบคุณภาพจากเพจ FB: Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)

  • รูป 3 ปูตินสั่งให้ธนาคารชาติรัสเซียจัดระบบรับเงินรูเบิ้ล ให้เสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ พร้อมทั้งประกาศรายชื่อ 48 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มไม่เป็นมิตร

เป็นอันว่า แทบจะทั้งหมดในยุโรป อยู่ใน 48 ประเทศดังกล่าว 

ขณะนี้ การชำระค่าก๊าซให้ Gazprom 58% เป็นสกุลยูโร อีก 39% เป็นสกุลดอลลาร์ เรียกได้ว่า เหลืออีกเพียง 3% ที่เป็นสกุลอื่น

(ขอบคุณภาพจากเพจ FB: Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)

  • รูป 4 ปูตินย้ำว่า รัสเซียยืนยันจะนำส่งก๊าซตามข้อผูกพันสัญญาระยะยาว (เพียงแต่จะรับชำระเป็นสกุลรูเบื้ลเท่านั้น)

ถามว่า ยุโรปจะดิ้นหลุดออกจากหมากกลใหม่ของปูตินได้ไหม?

ก๊าซที่ยุโรปใช้ผลิตไฟฟ้าและทำความร้อน 40% มาจากรัสเซีย และต้องใช้เวลา 4-5 ปีกว่าจะเปลี่ยนเป็นแหล่งอื่นได้

เพราะแหล่งอื่นต้องขนส่งเข้ายุโรปทางเรือ ดังนั้น ยุโรปจึงต้องใช้เวลาอีกหลายปี ในการสร้างท่าเรือที่มีระบบท่อ เพื่อลำเลียงก๊าซออกจากเรือ ไปเก็บบนบก

ก๊าซธรรมชาติเหลว จะต้องรักษาอุณหภูมิติดลบต่ำกว่า 160 เซลเซียส และถังเก็บต้องทนแรงอัดได้สูง

(ขอบคุณภาพจากเพจ FB: Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)

อธิบายแบบชาวบ้าน ยุโรปถูกมัดมือชกเสียแล้ว

ถ้าไม่ซื้อก๊าซรัสเซีย ก็จะไม่มีไฟฟ้า จะต้องปิดโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้น ยุโรปจึงต้องกัดฟัน ต้องจ่ายเป็นสกุลรูเบิ้ล

ปัญหาที่จะเกิด ก็คือ ผู้ที่จะควบคุมปริมาณเงินสกุลรูเบิ้ลในโลกนี้ มีอยู่คนเดียว คือธนาคารชาติรัสเซีย

 

ย้อนกลับไปวิกฤตต้มยำกุ้ง ผมจำได้ว่า เฮดจ์ฟันด์ที่โจมตีเงินบาท ตกใจอยู่ห้วงเวลาหนึ่ง ที่ธนาคารชาติของไทย ปิดตลาดเงินสกุลบาทในตลาดออฟชอร์

ทำให้อัตราดอกเบี้ยสกุลบาทในตลาดออฟชอร์ กระโดดพรวดขึ้นเป็นกว่า 1 พันเปอร์เซนต์ต่อปี!!!

ในกติกาเช่นนั้น เมื่อใดที่เฮดจ์ฟันด์ที่โจมตีเงินบาท สัญญาขายเงินบาทล่วงหน้าครบกำหนด แต่เมื่อไม่สามารถวิ่งหาซื้อเงินบาทในตลาดออฟชอร์ได้

ก็จะต้องคลานมาขอเจรจากับธนาคารชาติไทย

เมื่อนั้น ธนาคารชาติไทยจะกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแพงเท่าไหร่ก็ได้

ซึ่งถ้ามีการปิดตลาดออฟชอร์บาทเด็ดขาดจริงๆ รัฐบาลไทยก็อาจไม่จำเป็นต้องเข้าโครงการ IMF ซึ่งตั้งเงื่อนไขแบบโหดสุด

 

ที่ผมพาดพิงไปถึงต้มยำกุ้งนั้น เพียงเพื่ออธิบายว่า นโยบายนี้ของปูติน จะพลิกกลับความเจ็บปวดจากแซงชั่นได้ระดับหนึ่ง

ประเทศตะวันตกย่อมสามารถบีบไม่ให้รัสเซียขายสินค้าบางอย่างได้

แต่สำหรับสินค้าใดที่ประเทศตะวันตกเดือดร้อน ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องพึ่งรัสเซีย และจะไม่สามารถพึ่งแหล่งอื่นแทนได้ง่าย

สำหรับสินค้าเหล่านี้ รัสเซียจะกลับเป็นคนบีบยุโรปเสียแทน และปูตินจะให้เงินรูเบิ้ลแข็งขึ้นอีก เท่าไหร่ก็ได้

 

หมายเหตุ: การกล่าวถึงชื่อบุคคลใดมิใช่เป็นการกล่าวหากระทำความผิด แต่เป็นเพื่อประกอบการบรรยายทางวิชาการเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ