“นาโต” เตือนภัย!  รัสเซียเลือดเข้าตาพร้อมโจมตีทางไซเบอร์ชาติสมาชิก

เจ้าหน้าที่ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เปิดเผยวันนี้ (1 มี.ค.) ว่า นาโตอาจใช้ มาตรา 5 เพื่อรับมือ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ที่อาจเกิดขึ้นกับ ชาติสมาชิก ขณะที่ความกังวลด้านไซเบอร์ที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ รัสเซีย บุกยูเครน นั้นได้ลุกลามออกไปยังประเทศอื่น ๆด้วย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มนาโตได้พยายามสร้างความกระจ่างมาโดยตลอดว่า การโจมตีทางไซเบอร์ในระดับที่รุนแรงนั้นเข้าเกณฑ์ที่นาโตจะใช้ “มาตรา 5” เข้าจัดการ โดยมาตราดังกล่าวระบุว่า

"การโจมตีสมาชิกประเทศใดประเทศหนึ่ง จะถือเป็นการโจมตีประเทศสมาชิกโดยรวม" อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวยังถือเป็นการตั้งสมมติฐานอย่างกว้าง ๆ

เจ้าหน้าที่ของนาโตให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กลุ่มพันธมิตรนาโตตระหนักดีถึงผลกระทบจากการดำเนินการทางไซเบอร์ที่มุ่งร้ายอย่างมีนัยสำคัญในสถานการณ์บางอย่าง ซึ่งอาจถือเป็นการโจมตีแบบติดอาวุธรูปแบบหนึ่ง

สำหรับแนวทางการตอบโต้ร่วมกันที่จะนำมาใช้นั้น นาโตจะไม่รอคาดเดาว่าการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นส่งผลที่ร้ายแรงเพียงใด โดย รูปแบบการตอบโต้ นั้นอาจรวมถึง

• มาตรการคว่ำบาตรทางการทูตและเศรษฐกิจ
• มาตรการด้านไซเบอร์
• หรือแม้แต่การใช้กองกำลังแบบดั้งเดิมด้วย

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะการโจมตีที่เกิดขึ้น

ไม่ว่าการโจมตีทางไซเบอร์จะรุนแรงตามเกณฑ์ที่จะใช้มาตรา 5 หรือไม่ก็ตาม ชาติพันธมิตรนาโตก็มีสิทธิตัดสินใจในทางการเมือง โดยทางอังกฤษและสหรัฐอเมริกาเตือนว่า การโจมตีทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นกับยูเครนและลุกลามข้ามประเทศนั้น อาจเกิดขึ้นในลักษณะที่ว่า มีการใช้ซอฟต์แวร์ที่ประสงค์ร้ายซึ่งออกแบบมาเพื่อโจมตีระบบเครือข่ายในยูเครน แล้วแพร่กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ยังกังวลว่า รัสเซียอาจร่วมมือกับแก็งและผู้ปล่อยซอฟต์แวร์ประสงค์ร้าย เช่น มัลแวร์ที่เคยใช้ในการโจมตีระบบท่อส่งน้ำมันของบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ เพื่อเรียกค่าไถ่จากสหรัฐอเมริกาในปีที่ผ่านมา (2564)