17 ก.พ.ที่ผ่านมาเกิดปรากฎการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในจีน เมื่อ นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีจีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารกลางจีน ระดมพลบริษัทเอกชนจีนยักษ์ใหญ่ มาหารือด้านแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภค และการค้า
โดย นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญ ชี้ให้เห็นว่า ขณะนี้เศรษฐกิจภาคเอกชนของจีนมีขนาดใหญ่ และแข็งแกร่งมาก รวมทั้งมีรากฐานที่มั่นคงสำหรับการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนที่มีคุณภาพสูง ในยุคใหม่และการเดินทางลองมาร์ชครั้งใหม่ ผลผลิตทางสังคมของจีนจะก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปฏิรูปและการเปิดกว้างจะมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างรอบด้าน และตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคนจะมีศักยภาพมหาศาล นำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ มากมายสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนและเพิ่มพื้นที่การพัฒนาให้มากขึ้น ระบบสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีนมีข้อได้เปรียบที่สำคัญหลายประการ ระบบเศรษฐกิจตลาดสังคมนิยมและระบบกฎหมายสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีน ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะให้หลักประกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน
นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า หลักการและนโยบายพื้นฐานของพรรคและรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนได้ถูกผนวกเข้าในระบบสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีน และจะได้รับการยืนหยัดและนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง หลักการและนโยบายเหล่านี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ในยุคใหม่และการเดินทางไกลครั้งใหม่ เศรษฐกิจภาคเอกชนมีแนวโน้มการพัฒนาที่กว้างขวางและมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ และถึงเวลาแล้วที่วิสาหกิจเอกชนและผู้ประกอบการเอกชนจะต้องแสดงความสามารถของตน เราจะต้องรวมความคิดของเราให้เป็นหนึ่งเดียว เสริมสร้างความเชื่อมั่นของเรา และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนให้มีสุขภาพดีและมีคุณภาพสูง
ก่อนหน้านี้ สหรัฐ เป็นผู้เริ่มเปิดเกมสงครามเทคโนโลยีก่อน โดยเมื่อวันที่ 20 ม.ค.68 ทันทีนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐ สมัยที่ 2 ก็ได้ลงนามเพิกถอนคำสั่งการบริหารงานของไบเดน ที่ลงนามไว้เมื่อ 2567 อันเป็นข้อจำกัดในการพัฒนา AI
นอกจากนี้ทรัมป์ ประกาศชัดต้องการเป็นผู้นำ AI โลก โดยเชิญผู้นำ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ ประกอบด้วย นายมาซาโยชิ ซัน ผู้ก่อตั้งซอฟต์แบงก์กรุ๊ป คอร์ป นายแซม อัลท์แมน ซีอีโอ OpenAI และนายแลร์รี เอลลิสัน ซีอีโอ ออราเคิล คอร์ป มาประชุมที่ทำเนียบขาว เพื่อจัดตั้งบริษัทสตาร์เกต ที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 17 ล้านล้านบาทโดยเบื้องต้น 3 บริษัทจะลงทุนก่อน 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 3.7 ล้านล้านบาท จะขยายให้ถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะสร้างงานด้าน AI ในสหรัฐฯสูงถึง 1 แสนตำแหน่ง