วิชั่น "นพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ" ปั้นอาณาจักร โฮม สุขภัณฑ์ 5ปี ผู้นำตลาดภูมิภาค

23 พ.ย. 2567 | 03:06 น.

เปิดกลยุทธ์ "นพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ" ปั้นอาณาจักร "โฮม สุขภัณฑ์ " จาก ผู้นำภาคเหนือตอนบน 5ปี สู่ผู้นำตลาดภูมิภาค กระเบื้องแฟชั่นสุขภัณฑ์ วัสดุปิดพื้นผิว ของไทย

วัสดุตกแต่งบ้านไม่เพียงแต่มีผลต่อการสร้างบรรยากาศในบ้าน แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการกระตุ้นอุตสาหกรรมต่างๆ  ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น ไปจนถึงระดับโลก แม้ปี2567 ต้องเผชิญกับเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อชะลอตัว ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง แต่ในภาพรวมมองว่า ธุรกิจนี้ ยังคงเติบโต โดยเฉพาะความต้องการที่อยู่อาศัย รวมถึงการรีโนเวทบ้านใหม่ ส่งผล ให้แต่ละค่ายพลิกกลยุทธ์พัฒนารูปแบบและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง 

นพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ

แนวคิดบริหาร "โฮมสุขภัณฑ์”

เช่นเดียวกับ “โฮมสุขภัณฑ์” ศูนย์จัดจำหน่ายกระเบื้องสุขภัณฑ์ สินค้า วัสดุตกแต่งบ้าน และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน รายใหญ่ทางภาคเหนือ โดยมีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การนำของ  “นพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม สุขภัณฑ์ จํากัด (มหาชน)

กระเบื้อง ของโฮม สุขภัณฑ์
 

ถ่ายถอดวิสัยทัศน์การบริหารธุรกิจ ให้เติบโตท่าม กลางความท้าทายว่า บริษัท มีแนว คิด มุ่งพัฒนา “โฮมสุขภัณฑ์” ให้เป็นผู้ชำนาญการด้านกระเบื้องเซรามิคและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับห้องนํ้า ห้องครัว รวมถึงเป็นผู้ชำนาญการด้านวัสดุตกแต่ง วัสดุปิดผิวต่างๆ โดยส่วนตัว มองว่า การสร้างบ้านบางคนอาจจะสร้างเพียงหลังเดียวในชีวิตจึงมีแนวคิดที่จะมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดี

 

เจาะกลยุทธ์ สร้างความได้เปรียบ

 จากความชำนาญ และคลุกคลีเรื่องกระเบื้อง มากว่า 40 ปี ทำให้ เข้าใจเทรนด์ที่ผู้บริโภคต้องการเพราะกระเบื้องเป็นสินค้าแฟชั่น ที่ “โฮมสุขภัณฑ์” ได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาทุกเดือนในทุกสาขา ซึ่งประกอบด้วย 4 สาขา 3 จังหวัด โดยสาขาเชียงใหม่  เชียงราย แม่สาย และพะเยาเจาะกลุ่มลูกค้า และกำลังซื้อในโซนภาคเหนือ แบ่งกลุ่มลูกค้า ออกเป็น 5 กลุ่ม

โฮม สุขภัณฑ์ สำนักงานใหญ่ เชียงใหม่

ได้แก่ 1.กลุ่มเจ้าของบ้าน ที่มาเลือกซื้อสินค้าเอง

2.กลุ่มผู้รับเหมา รวมถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้างต่าง ๆ

3.กลุ่มสถาปนิก

4.กลุ่มเจ้าของโครงการ อสังหาริมทรัพย์

และ5.กลุ่มหน่วยงานรัฐ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ต่างๆ

โดยให้นํ้าหนักกลุ่มลูกค้า ปลีก/รายย่อย 71% โครงการ 18% ช่าง/ผู้รับเหมาก่อสร้าง 9% สถาปนิก2% ขณะผลการดำเนินงาน ปี2564  รายได้ 1,077.17 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 212.05 (19.69%) ปี2565 รายได้1,138.45ล้านบาท กำไรขั้นต้น 218.78 (19.22%) ปี2566 รายได้ 1,236.45 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 242.68 ล้านบาท (19.63%) ปี 2567 6เดือนแรกรายได้ 544.44 ล้านบาท

ตลาดภาคเหนือตอนบน เป็นจังหวัดที่น่าลงทุน   นอกจากนี้ยังแผนขยาย สาขา ไปยังภาคอีสาน จังหวัดนครราชสีมาโดยมองว่า ตลาดเติบโตสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นคนพิถีพิถัน ต้องการให้ผู้บริโภค ได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพแต่ราคาจับต้องได้ บริษัทจึงใช้กลยุทธ์ เลือกกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ต่างๆด้วยตัวเอง ทำให้สามารถ ลดต้นทุนลงได้มาก ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกระเบื้องแฟชั่นสามารถวางขายในราคาตั้งแต่ 99 บาท ไปจนถึง 499 บาทต่อตารางเมตร

การเติบโต-แข่งขันในธุรกิจนี้

 

“นพ”ตอกยํ้า ว่า “เราเติบโตจากสินค้ากลุ่มกระเบื้องเซรามิค ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับห้องนํ้า ทำให้มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มสินค้าประเภทนี้ อีกทั้งยังมีสินค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะกระเบื้องเซรามิค ปัจจุบันโฮม สุขภัณฑ์ มีกระเบื้องเซรามิคที่ผลิตในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกระเบื้องนำเข้า บริษัทมีแหล่งนำเข้ากระเบื้องจากต่างประเทศกว่า 100 โรงงาน จากหลายแหล่งทั้งจากประเทศจีน,อินเดีย,เวียดนาม, อินโดนีเซีย,อิตาลี,สเปน บริษัทฯ มั่นใจว่า เราน่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกอันดับต้น ๆ ในใจของลูกค้า ถ้าต้องการเลือกซื้อกระเบื้องเซรามิค ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับห้องนํ้า สินค้ากระเบื้องเซรามิคเป็นสินค้าแฟชั่น บริษัทมีการคัดเลือกกระเบื้องเซรามิคลายใหม่ ๆ สวยงาม เข้ามาจัดจำหน่ายใน Store ของบริษัททุก ๆ เดือน”

โฮม สุขภัณฑ์

  ด้านการแข่งขันเนื่องจากบริษัทมีการนำเข้ากระเบื้องเซรามิคจากหลายแหล่ง มีกระเบื้องในโชว์รูมกว่า1,000ดีไซน์ มีการอัพเดตลายใหม่ๆ อยู่ตลอด ทำให้บริษัทมั่นใจว่า บริษัทเป็นผู้นำด้านกระเบื้องเซรามิคในตลาดภาคเหนือตอนบน และบริษัทมีทีมออกแบบที่มีความชำนาญ ในการออกแบบให้ลูกค้าได้เห็นภาพเสมือนจริง และยังมีห้องโชว์กระเบื้องเซรามิค ที่สร้างจินตนาการให้ลูกค้าได้เห็นและสัมผัส

กระเบื้อง

ตลาดวัสดุก่อสร้างในเชียงใหม่

ขณะภาพรวมธุรกิจวัสดุก่อสร้างในเชียงใหม่ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง “นพ” สะท้อนตัวเลขการเติบโต จากสถิติของสำนักงานคลังจังหวัดเชียงใหม่ คาดการณ์ว่าวัสดุก่อสร้างในเชียงใหม่ มีมูลค่ารวมมากถึง 13,000ล้านบาทในปี 2567โดยมูลค่าวัสดุตกแต่งที่โฮม สุขภัณฑ์อยู่ในตลาดมีขนาด 40% จากตัวเลขคาดการณ์ 5,200 ล้านบาท สาขาเชียงใหม่มียอดขายปี 2567 ประมาณ 800 ล้านบาท โดย “โฮม สุขภัณฑ์” น่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดในจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 15% ของตลาดวัสดุตกแต่ง

สุขภัณฑ์

จากตึกแถวสู่อาณาจักรโฮมสุขภัณฑ์

 “นพ”เล่า ย้อนความเป็นมา ของจุดเริ่มต้นธุรกิจกระทั่งมาสู่ อาณาจักร “โฮมสุขภัณฑ์” ในปัจจุบันว่า ธุรกิจดั้งเดิมของคุณพ่อและคุณแม่ เป็นธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งไม้ปาเก้ กระทั่งปี 2524 ได้เปิด หจก.เชียงใหม่ลำปางปาเก้สุขภัณฑ์ เป็นตึกแถว 3 คูหา บนถนนช้างเผือก  ในปี2528 ได้เริ่มนำสินค้ากระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์ เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม และเพิ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับครัวเข้ามาภายหลังรวมถึงวัสดุตกแต่งบ้าน และในปี 2548 ได้มาเปิด Store แห่งใหม่

ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ในปัจจุบัน และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ หจก.โฮม สุขภัณฑ์ เพื่อให้ลูกค้าจดจำว่าเป็นร้านขายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับห้องนํ้า บนพื้นที่ 38 ไร่ พื้นที่ขาย 7,000 ตารางเมตร และคลังเก็บสินค้าขนาดใหญ่เกือบ 30,000 ตารางเมตร ปี2557 ได้ขยายไปเปิดสาขาเชียงราย ปี2562 เปิดสาขาแม่สาย และปี2565 เปิดสาขาพะเยา

 “ภาพรวม ทุกสาขาจะเน้นตลาดเจ้าของบ้านมากที่สุด ที่ 50% ช่าง-ผู้รับเหมา -เจ้าของโครงการ-สถาปนิก รวมกัน30% ที่เหลือเป็นเครดิตสินเชื่อ  ส่วนรายได้ ปัจจุบัน ปี 2567 จำนวน 1,100ล้านบาท  โดยปี2566 อยู่ที่  1,200  ล้านบาท  โดยปีนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ”

 

 5ปีผู้นำตลาดภูมิภาค

 สำหรับปี2568ตั้งเป้าเติบโต 5%  เทียบจากรายได้ช่วงเดียวกันของปี2567  โดยมีปัจจัยมาจาก มีสินค้านำเข้าต่างๆเข้ามาเสริมมากขึ้น  เชื่อว่าสินค้ากลุ่มนี้จะเพิ่มการขายให้กับ บริษัท ในเรื่องของไม้เทียม  ขณะเทคนิคการพิจารณาเลือกดูสินค้า จากประสบการณ์ที่ ทำตลาดของ บริษัทๆ ได้ ไปดูสินค้าดูเรื่องคุณภาพ สินค้าที่นำเข้าทุกอย่าง จะต้องไปตรวจที่โรงงาน  มีการควบคุมคุณภาพ (Quality Control : QC) ก่อนที่จะตัดสินใจนำสินค้าเข้ามา ดังนั้น ความเสี่ยงจะไม่มี ซึ่งกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานที่วางไว้  โดยขยายสาขาเพิ่มภายใน 5 ปี และเป็นผู้นำด้านแฟชั่นกระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์ วัสดุปิดพื้นผิวในตลาดภูมิภาคของประเทศไทย

นี่คือกลยุทธ์ธุรกิจสำหรับ “โฮมสุขภัณฑ์” ผู้นำตลาดภาคเหนือตอนบน และมีเป้าหมายผู้นำตลาดภูมิภาคของไทยในอีก5ปีข้างหน้า ซึ่งประโยคนี้ไม่เกินจริงนัก!!

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,046 วันที่ 21 - 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567