เปิดตัวเลข 9 เดือนกำไร 40 บริษัทอสังหาฯลดฮวบ แข่งอัดโปร -สงครามราคาตัวแปร

21 พ.ย. 2567 | 13:06 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2567 | 13:39 น.

เปิดตัวเลข 9 เดือนปี67 40 บริษัทอสังหาฯ รายได้-กำไรหด สต๊อกท่วม 7 แสนล้าน "แอล ดับเบิลยู เอส" ชี้ กำไรสุทธิ 20,987.91 ล้าน ลดลง 24.90% เหตุ แข่งขัน อัดโปร สงครามราคา หวังเร่งโอนตามเป้าโค้งท้ายปี ส่วน รายได้ อยู่ที่ 234,206.34 ล้านบาท ลดลง 0.22% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

 

สถานการณ์เศรษฐกิจปี2567ซบเซามีผลต่อกำลังซื้อที่หดตัว ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการลงทุนครั้งสำคัญในชีวิตอย่าง การซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากต้องใช้เวลาผ่อนชำระยาวนานไม่ต่ำกว่า30ปี แต่รายได้และความมั่นคงทางอาชีพนับวันจะลดน้อยถอยลง รวมถึงปัญหาหนี้ ครัวเรือน ที่พอกพูนมาตั้งแต่ช่วงเกิดสถานการณ์โควิด เป็นเหตุให้ สถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อกระทบรุนแรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ และแม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐออกมาชุดใหญ่แล้วก็ตาม อาทิ มาตรการลดหย่อนค่าโอนและจดจำนองเหลือรายการละ0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน7ล้านบาท 

 

9เดือนอสังหาฯ

ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องช่วยเหลือตนเองจัดโปรโมชั่นลด- แลก-แจก-แถม เล่นสงครามราคาเพื่อจูงใจลูกค้า โดยมุ่งหวัง ระบายสต๊อกที่มีอยู่ในมือออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กว่าการมองหากำไร ท่ามกลางการปฎิเสธสินเชื่อที่มีสูง  เป็นตัวแปรกำไรในช่วง9เดือนแรกของปี2567 ในภาพรวมของ 40 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

 

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด ในเครือบมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการ 40 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 234,206.34 ล้านบาท ลดลง 0.22%

 

 

ผลการดำเนินงาน 9 เดือน บริษัทอสังหาฯ

ผลการดำเนินงาน 9เดือน บริษัทอสังหาฯ

 

และกำไรสุทธิ 20,987.91 ล้านบาท ลดลง 24.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มีรายได้รวม 234,743.77 ล้านบาทและกำไรสุทธิรวม 27,948.14 ล้านบาท ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 8.96 % ดีกว่าครึ่งแรกของปี 2567 ที่อยู่ที่ 8.60% แต่ต่ำกว่า 9 เดือนแรกของปี 2566 ที่อยู่ที่ 11.90%

 

 เมื่อดูบริษัทที่มีรายได้รวมสูงสุด 10 อันดับแรก อยู่ที่ 173,727.91 ล้านบาท คิดเป็น 74.17% ของรายได้รวม โดยบริษัทมีรายได้มากสุด

ผลประกอบการ9เดือน 10 บริษัทอสังหาฯ

 

1.บมจ.แสนสิริ 28,877.13 ล้านบาท เพิ่ม 4.71%  

2.บมจ.เอพี ไทยแลนด์ 28,048.82 ล้านบาท ลดลง 3.01%

3.บมจ. ศุภาลัย 22,791.62 ล้านบาท เพิ่ม 5.82%

4.บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 20,419.12 ล้านบาท ลดลง 4.08%

5.บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง 15,607.33 ล้านบาท ลดลง 21.55%

6. บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ 14,566.41 ล้านบาท ลดลง 13.34%

7.บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น 14,453.59 ล้านบาท ลดลง 7.75%

8.บมจ. สิงห์ เอสเตท 11,558.34 ล้านบาท เพิ่ม 12.40%

9.บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ 9,638.27 ล้านบาท ลดลง 22.33%

และ10.บมจ. แอสเซทไวส์ 7,767.28 ล้านบาท เพิ่ม 62.46% ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัท 10 อันดับแรกสูงสุดอยู่ที่ 22,546.37 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้มากที่สุด คือ ศุภาลัย 4,201.25 ล้านบาท เพิ่ม 5.77%  ตามด้วย แสนสิริ 4,009.46 ล้านบาท  รายได้ เพิ่ม 4.71%  กำไรสุทธิลดลง 15.77% เอพี 3,726.97 ล้านบาท ลดลง 21.02% และมี 15 บริษัทที่ขาดทุนสุทธิ

นายประพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า สำหรับสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยรวมอยู่ที่ 704,935.81 ล้านบาท ลดลง 0.38% จากจำนวนสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 707,738.38. ล้านบาทในไตรมาสสองของปี 2567 แต่เพิ่มขึ้น 6.29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มีสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 663,188.48 ล้านบาท โดยแสนสิริมีมากสุด 105,668 ล้านบาท คิดเป็น14.9% ของยอดรวมทั้ง 40 บริษัท รองลงมาศุภาลัย 75,067.68 ล้านบาท และเอพี 70,437.59 ล้านบาท

ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการในแง่ของกำไรของทั้ง 40 บริษัท ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการมีการแข่งขันจัดโปรโมชั่นลดราคากันอย่างคึกคัก เพื่อเร่งสร้างยอดขายและยอดโอนให้เป็นไปตามเป้าหมาย