Generation Rent เบ่งบาน Gen Z เน้นเช่ามากกว่าซื้อบ้าน

18 ก.พ. 2567 | 09:41 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.พ. 2567 | 09:45 น.
796

Generation Rent เบ่งบาน Gen Z เน้นเช่ามากกว่าซื้อบ้าน ขณะที่แบงก์เข้มปล่อยกู้บ้านต่ำกว่า 3 ล้าน บ้านมือสองอาจเป็นทางเลือก

KEY

POINTS

  • ผลการศึกษาพบว่า กลุ่ม Gen Z วัยรุ่นเกิดปี 1996-2010 อายุประมาณ อายุ 12-27 ปี ราว 51% รู้สึกว่าการเช่าที่อยู่อาศัยเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการซื้อ
  • เทรนด์ Generation Rent กลุ่มคน ช่วงประมาณ Gen Y เเละ Gen Z ในปัจจุบันขยายวงกว้างขึ้น หลังราคาบ้านพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2002 ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่สามารถซื้อบ้านได้อีก
  • สาเหตุหลักที่ทำให้คนรุ่นใหม่เลือกไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเองปัจจัยหนึ่งคือโครงสร้างทางสังคม โดยเฉพาะรายได้ สวนทางกับราคาที่อยู่อาศัย ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โอกาสมีเป็นของตัวเอง จึงยากขึ้น ซึ่งหลายประเทศก็เจอปัญหาในลักษณะนี้

ทุกวันนี้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นอุปสรรคเกือบทุกคน แต่สำหรับกลุ่ม Gen Z วัยรุ่นเกิดปี 1996-2010 อายุประมาณ อายุ 12-27 ปี วัยหนุ่มสาวที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างตัว เพราะมีช่วงอายุตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงช่วงที่เริ่มต้นทำงานแล้ว กำลังเผชิญกับคำถามสำคัญในชีวิต เช่น การซื้อบ้าน และการได้รับความมั่นคงทางการเงิน

ยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจ กำลังซื้อ อัตราดอกเบี้ยไม่แน่นอน โดยเฉพาะ "ราคาบ้าน" ที่พุ่งสูงขึ้น จึงเป็นเรื่องยากและอาจไกลเกินฝัน แม้ว่าจะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม

ทิศทาง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2024 ของประเทศไทยยังเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังน่าเป็นห่วง ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการ ตลาดที่อยู่อาศัยเติบโตช้า เนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยสูง และการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน เนื่องจาก หนี้เสีย หรือ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เริ่มเพิ่มขึ้น จากข้อมูลเครดิตบูโร หนึ่งในนั้นมี "สินเชื่อบ้าน" ที่มีหนี้เสียอยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงดีกันของปีก่อน

เฉพาะราคาต่ำ 3 ล้านบาท มียอดรีเจ็ก 50-60% และ ราคา 4-6 ล้านบาท มียอดรีเจ็ก 30-40%  ขณะที่ผู้เล่นในตลาดเริ่มแข่งขันสูงเเม้ความร้อนเเรงอาจไม่เท่ากับช่วงที่ผ่านมา ต่างเปิดตัวโครงการใหม่ที่เน้นการพัฒนาโครงการเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-บน ซึ่งมีความพร้อมในการซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่ากลุ่มผู้บริโภคระดับล่างที่อ่อนไหวหรือคนที่กำลังซื้อน้อย 

Generation Rent เบ่งบาน Gen Z เน้นเช่ามากกว่าซื้อบ้าน

สอดคล้องกับข้อค้นพบของ RealPage ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และการวิเคราะห์ข้อมูลชั้นนำระดับโลกแก่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ จากสำรวจระดับชาติของผู้เช่าหลายครอบครัวในสหรัฐฯ โดยสอบถามผู้เช่าชาวอเมริกัน 2,000 ราย อายุ 55 ปีหรือต่ำกว่าทั่วประเทศที่มีรายได้อยู่ระหว่าง 20,000 ถึง 200,000 ดอลลาร์เกี่ยวกับความเชื่อและการรับรู้ในการเช่า ความคาดหวังในการเช่า ความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้นหา การตัดสินใจ และตัวขับเคลื่อนประสบการณ์การเช่าที่สำคัญที่สุด เทคโนโลยี ข้อกำหนดและอื่น ๆ

Gen Z  51% รู้สึกว่าการเช่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการซื้อ

ผลการศึกษาพบว่า 2 ใน 3 หรือราว 66% ของผู้เช่าหลายครอบครัวพอใจกับสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน โดยเลือกอิสระทางการเงินจากการให้เช่าในราคาถูกกว่าการซื้อในพื้นที่ที่พวกเขาต้องการอยู่ ตลอดจนความยืดหยุ่น สำหรับการทำงานระยะไกลและลองใช้สถานที่ใหม่ๆ ที่สำคัญคือ ผู้เช่า Gen Z  51% รู้สึกว่าการเช่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการซื้อ ผลลัพธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการเช่านั้นร้อนแรงในปัจจุบัน เเม้จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามกลุ่มอายุในแง่ของผลประโยชน์ก็ตาม 

Gen Z  51% รู้สึกว่าการเช่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการซื้อ

เทรนด์ Generation Rent ขยายวงกว้างขึ้น 

ผลสำรวจดังกล่าวยิ่งตอกย้ำ เทรนด์ Generation Rent ให้เดนชัดเเละก้าวมากขึ้น ไม่ใช่เเค่เฉพาะในประเทศไทยเเต่เกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อทุกคนมีจุดร่วมเดียวกัน เทรนด์แห่งการเช่าจึงเกิดขึ้น Generation Rent เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มคน ช่วงประมาณ Gen Y เเละ Gen Z 

จุดเริ่มต้นของ Generation Rent มาจากการล่มสลายของตลาดบ้านในประเทศเหล่านั้น ที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่ไม่สามารถซื้อบ้านได้อีกต่อไป 

นักวิเคราะห์หลายคนเห็นสอดคล้องกันว่า สาเหตุหลักที่ทำให้คนรุ่นใหม่เลือกไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเองปัจจัยหนึ่งคือ "โครงสร้างทางสังคม" โดยเฉพาะ "รายได้" สวนทางกับ "ราคาที่อยู่อาศัย" ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โอกาสมีเป็นของตัวเองจึงยากขึ้นตามเช่นกัน ซึ่งหลายประเทศก็เจอปัญหาในลักษณะนี้เช่นกัน 

อย่างในสหราชอาณาจักร กลุ่มคนอายุ 35 - 44 ปี มีแนวโน้มที่จะเช่าบ้าน นานกว่า 20 ปี มากเพิ่มขึ้น 3 เท่า เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูง ขณะที่ GDP ต่อหัวของประชากร มีแนวโน้มที่ลดลงมาตั้งแต่ปี 2007

ส่วนในฮ่องกง ประเทศยืนหนึ่ง ตลาดที่อยู่อาศัยราคาแพงที่สุดในโลก ช่วงปี 2023 ราคาบ้านในฮ่องกงร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ผู้บริโภคมีความสนใจในการซื้อบ้านน้อยลง และเลือกที่จะเช่าบ้านแทน ราคาค่าเช่าบ้านในฮ่องกงจึงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง 

ฮ่องกง ยืนหนึ่ง ตลาดที่อยู่อาศัยราคาแพงที่สุดในโลก

ขณะที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผชิญกับความท้าทายเนื่องจากราคาบ้านต่อรายได้ที่สูงของภูมิภาค และระดับค่าจ้างที่ซบเซาในประเทศกำลังพัฒนา ทำให้การเป็นเจ้าของบ้านไม่เอื้อสำหรับคนหนุ่มสาวจำนวนมาก 

กลุ่มอาเซียนมีประสบการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา แต่สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงในเมืองหลวงหลายแห่ง เช่น โฮจิมินห์ 

ตลาดบ้านมือสอง อาจเป็นทางเลือก

ในประเทศไทย ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า ตลาดบ้านมือสองเริ่มมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565 เนื่องจากรัฐบาลให้ผู้ที่ซื้อบ้านมือสองมีโอกาสได้รับสิทธิในการส่วนลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ และค่าจดจำนอง และได้รับสิทธิต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566 ด้วย อาจเป็นผลมาจากบ้านใหม่ในทำเลที่ต้องการมีราคาแพงขึ้น หรือไม่สามารถหาซื้อได้แล้ว

ขณะที่กำลังซื้อของประชาชนไม่เพิ่มขึ้น และต้องการหาทำเลที่ไม่ไกลและไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง บ้านมือสองจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมของประชาชน เนื่องจากราคาที่ต่ำกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกันถึง 20-30% ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) คาดว่า ในปี 2024 ภาวะการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองอาจจะปรับตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่อยู่อาศัยของคนในประเทศจากปัจจัยลบต่างๆ เช่นเดียวกับภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศ

ตลาดบ้านมือสอง

กระตุ้นกำลังซื้อ บรรเทาภาระคนมีบ้าน

วิกฤตความสามารถในการซื้อบ้านไม่ได้ที่กำลังเกิดขึ้นสำหรับผู้ซื้อบ้านรุ่นใหม่นอกจากทิ้งร่องรอยความฝันที่พังทลาย และพลาดโอกาสไว้เบื้องหลัง เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราที่น่าตกใจ พร้อมกับค่าจ้างที่ซบเซา การบรรลุเป้าหมายในการเป็นเจ้าของบ้านเป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อยๆ เว้นเเต่ว่ารัฐบาลจะกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนให้คนมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น