เปิดวิชั่น คีย์แมน “อนันดา” ผู้นำคอนโดฯในเมืองแนวรถไฟฟ้า

เปิดวิชั่น คีย์แมน “อนันดา” ผู้นำคอนโดฯในเมืองแนวรถไฟฟ้า

 

ผ่านพ้นสถานการณ์โควิด โดยทิ้งร่องรอยแผลเป็นของโรคภัย  และนำไปสู่ แผลเป็นทางเศรษฐกิจที่ทั่วโลกเฝ้าจับตาสะท้อนจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลกล้ม นั่นเป็นเพราะมีแผลเป็นของโควิดที่ถูกสะสม  อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ประเทศไทย หลีกเลี่ยงผลกระทบในลักษณะดังกล่าวไม่ได้ ดังนั้นทุกอุตสาหกรรม  ต้องอาศัยการปรับตัวบนพื้นฐานความท้าทายรอบด้าน

คำกล่าว นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทอนันดา ดีเวล ลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  หรือ ANAN  ผู้นำอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยในเมืองแนวรถไฟฟ้า   คีย์แมน คนสำคัญที่สะท้อนผ่าน  “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด อนันดาปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งบุคลากร คนรุ่นใหม่ ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี เตรียมความพร้อมกับการกลับมาของกำลังซื้อ  ช่วยให้การทำงานกระชับฉับไว

เชื่อมโยงถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและเข้าถึงตลาดต่างประเทศ ที่มีกระแสตอบตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดจากความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกับโควิด

นี่คือความท้าทายของอนันดา จากการปรับตัว ไม่ไปเปรียบเทียบกับใครทำให้วันนี้องค์กรของอนันดามีเสน่ห์ คนมีความพร้อมเพราะถูกดีไซน์จากความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  และรวดเร็ว เพื่อนำไปสู่  “ANANDA RIDE  THE WAVE 2023” หรือ “อนันดา ขี่คลื่น” ในทางกลับกันหากเป็นองค์กรไม่รักการเปลี่ยนแปลง   โดยนายประเสริฐเปรียบเปรยว่า

"ยังเป็นคนอ้วนๆ แก่ๆ เล่นกระดานโต้คลื่นในกระแสนํ้าเชี่ยวมองว่าอาจจะลำบาก"

ดังนั้น ต้องปรับตัวเพื่ออยู่บนกระดานเหนือคลื่น โดยใช้คนรุ่นใหม่ เทคโนโลยีดิจิทัลดิสรัปชั่น การสร้างแพลตฟอร์ม ทั้งระบบ เพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้า โดยปีนี้ อนันดามีบิ๊กมูฟ แคมเปญ “URBAN CARAVAN” เป็นการนำสต็อกที่อยู่อาศัยในเมืองพร้อมอยู่ ด้วยต้นทุนเดิมที่ไม่ปรับเพิ่ม

รองรับการกลับมาของกำลังซื้อของชาวไทยและต่างชาติ มูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท แวดล้อมไปด้วยชุมชนเมืองขนาดใหญ่ บนพื้นที่พื้นที่สีเขียว สอดรับกับเทรนด์รักษ์โลก สะดวกด้วยการเดินทางเชื่อมโยงรถไฟฟ้าที่อนันดาให้ความสำคัญ 

สต็อกในมือ คือตู้เอทีเอ็ม 

นายประเสริฐอธิบายว่า การมีสต็อกในมือ มีของพร้อมขายเสมือนมีตู้เอทีเอ็มตั้งอยู่บริเวณบ้าน  สร้างความได้เปรียบอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับค่ายอื่น ที่ปล่อย ของไป ในช่วง1-2ปีก่อน ในราคาถูกๆ ขณะอนันดา เลือกที่จะเก็บสต็อกเหล่านั้นไว้เพราะประเมินว่ากำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะจีนจะกลับมา และต้องการซื้อคอนโดมิเนียม ในเมืองที่พวกเขาคุ้นเคย  พร้อมขยายความว่า สำหรับ “URBAN CARAVAN”  เป็นแคมเปญที่ใช้ทั้งปี

โดยเริ่มจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯครั้งที่  43  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 23-26 มีนาคม 2023 จัดเต็มโปรโมชั่น ที่จับต้องได้ตาม 8 นโยบายอนันดา 2566 ให้คนเมือง พร้อมอยู่ พร้อมย้ายทันที ซึ่งจะนำร่องโครงการออกขาย 200-300 หน่วยมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท จากมูลค่าสต็อกรวมทั้งหมดกว่า 4.4 หมื่นล้านบาท เพื่อส่งเสริมการขายและกระตุ้นเศรษฐกิจของคนเมือง

ในราคาและเงื่อนไขที่จับต้องได้  อาทิ  นโยบายจองน้อย เริ่ม 999 บาท  นโยบายกู้เต็ม 100% การออกแบบปรับโฉมใหม่พร้อมเข้าอยู่  นโยบายกู้ไม่ผ่าน ยินดีคืนเงิน อุ่นใจและมั่นใจ ภายใต้มาตรฐาน ANANDA SURE เป็นต้น

จุดพลุทำตลาดในเมืองกลับมา

ย้อนไปปีที่ทีผ่านมา (ปี2565) อนันดา เปิด 6 โครงการกว่า 2 หมื่นล้านบาทและขายได้กว่าหมื่นล้าน มีบิ๊กเชนจ์ ปรับโมเดลใหม่ๆออกแบรนด์ใหม่ๆ บ้านซูเปอร์ลักชัวรี โดย มีบิ๊กมูฟช่วงปลายปีที่สยามพารากอน นายประเสริฐเล่าว่าครั้งนั้นได้สร้างปรากฎการณ์ทำพารากอนแตก ซึ่งทุกคนเฝ้าจับตามองว่าอนันดาจะไปไหวหรือไม่

เพราะเปิดโครงการ กว่า 2 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ตลาดยังไม่เปิดแต่กลับทำได้ จากการพายเรือทวนนํ้าตลอดเวลา ทำให้ อนันดา เป็นผู้จุดพลุทำให้ตลาดกลับมา จากการเป็นผู้นำตลาดในเมือง ที่วันนี้ดีมานด์เริ่มกลับมา ไม่ว่าในประเทศและต่างประเทศ 

ต้องยอมรับว่า ทุกค่ายอสังหาฯ พลิกฟื้น ตลาดทัวร์ริสท์ กลับมา เศรษฐกิจเริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวและคนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในเมืองไทยมากขึ้นเราจะ “ขี่คลื่น” ได้อย่างไร นี่คือภาพที่เราจะไปและวันนี้โดยใช้คำว่า “อนันดาฟื้นแล้ว” ซึ่งปีที่ผ่านมาเราประกาศจัดงานใหญ่ Ananda Urban Pulse 2022  ในการขับเคลื่อนแต่สิ่งที่อนันดาได้เปรียบจากการฟื้นตัวคือสต็อก จำนวน 4.4 หมื่นล้านบาททั้งที่เสร็จแล้วและรอจะเสร็จในปีนี้

นี่คือจุดได้เปรียบขออนันดาซึ่งไม่ได้เทขายไปแบบถูกๆเมื่อปีสองปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะปีที่ผ่านมาและปีนี้อนันดาได้ใช้คอนเซ็ปใหม่ จาก Ananda Urban Pulse 2022 มาเป็น “URBAN CARAVAN” ที่จะให้ Economies of Scale ในการขาย หรือในมุมเศรษฐศาสตร์คือการสั่งผลิตของในครั้งหนึ่งเป็นจำนวนมากทำให้ต้นทุนในการผลิตนั้นถูกลง

เท่ากับว่าทำให้เราขายได้กำไรมากขึ้น เพราะในปี 2566 อนันดาประสบความสำเร็จต่อเนื่องเมื่อปีที่ผ่านมาจุดอ่อนของเราคือ  bottom line ผลการดำเนินงาน  ที่ต้องยอมรับนี่คือความท้าทายที่สุด ที่อนันดาต้องพิสูจน์ให้ตลาดเห็นว่าเรากลับมาแบบทำกำไรให้ได้ 

 “อนันดากลับมาแล้ว และเปิดโครงการใหม่ขายดีโครงการใหม่ปีนี้เราก็ขายดี”

สะท้อนจาก ในไตรมาสแรกของปีนี้ ภาพรวม ตลาดดีกระจุกแย่กระจาย ดีเวลลอปเปอร์ 11 ราย  กินรวบตลาด ปีที่ผ่านมา 56% จาก 3.5 แสนล้านบาท   ซึ่งอนันดาอยู่ 1 ใน 11 รายแรก และอีก 44% อยู่ในมือผู้ประกอบการรายเล็ก แต่ปีนี้ ผู้ประกอบการ 11ราย  เท่ากัน ประกาศการเปิดตัวโครงการ 4.2แสนล้านบาท เกือบ70% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

               “อยู่ในมือแค่ 11 ราย และคนที่ชนะตลาดคือคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หากไม่ปรับตัวจะถูกกินโดยผู้ประกอบการรายใหญ่แค่ 11ร าย  ซึ่งการปรับตัวครั้งนี้ อนันดาคือหนึ่งในนั้น”

โดยสรุปอนันดามีความเชื่อมั่น จากความแตกต่างจากคนอื่นและมีความโด่นเด่นที่จะ “RIDE THE WAVE” บนสต็อกที่มี 4.4 หมื่นล้านบาทซึ่งเป็นสต็อกพร้อมอยู่ 3 หมื่นกว่าล้านบาทและจะมีสต็อกที่จะเสร็จอีกส่วนหนึ่งจุดนี้  กลายเป็นโอกาสทอง ทำให้อนันดาสามารถเข้าเจาะตลาดต่างประเทศได้เร็วโดยเฉพาะตลาดคนจีน ต้องการบ้านพร้อมอยู่ ทำให้ อนันดาต้องมี แคมเปญใหม่

รวมถึงการก้าวไปข้างหน้าพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพลิกโฉมครั้งสำคัญในการร่วมลงทุนกับพัฒนามิตรรายสำคัญ ทั้งระดับ  เวิลด์ แบรนด์จากประเทศในแถบยุโรป และบีทีเอสกรุ๊ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่และผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารายแรกของไทย อีกทั้งการขยับขยายซื้อที่ดินอีกหลายแปลง  วงเงินไม่ตํ่ากว่า5,000ล้านบาท เพื่อเก็บเข้าพอร์ตรอพัฒนา ซึ่งล้วนแต่เป็นทำเลทองศักยภาพแทบทั้งสิ้น

นี่คือการกลับมายิ่งใหญ่ ของ อนันดา ผู้นำตลาดคอนโดฯในเมืองแนวรถไฟฟ้าที่พร้อมตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง!!!