อภิปรายงบปี 66 "อิสระ" ส.ส.ปชป. จี้ นายกฯ เร่งปราบงบเงินทอน-งบซ่อนแอบ

31 พ.ค. 2565 | 15:10 น.
อัปเดตล่าสุด :31 พ.ค. 2565 | 22:14 น.
556

อภิปรายงบรายจ่ายปี 66 "อิสระ" สส.ปชป. จี้ "นายกฯ" เร่งปราบงบเงินทอน- งบซ่อนแอบ-งบหลังกำแพง พร้อมเสนอหั่นงบที่ปรึกษา-เดินทางไปต่างประเทศ รถประจำตำแหน่ง นำมาแก้ปัญหาหนี้ให้ประชาชน

31 พฤษภาคม 2565 การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ในวาระที่ 1 วันแรกวันนี้ เริ่มต้นด้วยการชี้แจงรายละเอียดในการจำทำงบประมาณ โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐบาลจักทำงบฯ ให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจภายในประเทศและภายนอกประเทศ รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และดูแลประชาชนทุกกลุ่มทุกภาคส่วน พร้อมคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 3.2-4.2 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน สำหรับร่าง พ.ร.บ. รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 มีวงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 85,000 ล้านบาท 

 

ช่วงหนึ่ง นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วันแรก โดยสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2566 พร้อมอภิปรายว่า การจัดสรรงบประมาณตามร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 เมื่อรวมเงินเกี่ยวกับปัญหาหนี้ และหารด้วยยอดหนี้ครัวเรือนที่มี 14.5 ล้านล้าน จะได้ผลลัพท์ คือ 0.03% หรือ มีหนี้ 100 บาท ร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 จะช่วยแก้ปัญหาหนี้ 3 สตางค์

 

ขณะที่การพิจารณาตัวเลขงบประมาณพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เช่น ท่องเที่ยว เอสเอ็มอี เกษตร พบว่า เกษตรสร้างมูลค่าเพิ่มเป็น 7.8 หมื่นล้าน จากปี 2565 จัดสรรให้ 4.6หมื่นล้านบาท ขณะที่เอสเอ็มอี พบว่า ได้รับการจัดสรรปี 66 อยู่ที่ 2,721 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจัดสรรงบแบบเสียไม่ได้ เพราะเมื่อนำงบจำนวนดังกล่าวหารกับเอสเอ็มอีที่มีกว่า 3.2 ล้านคน พบว่าจะได้เฉลี่ยคนละ 856 บาทต่อรายต่อปี แต่เมื่อเทียบกับงบบุคลากรภาครัฐที่มี 2.1 ล้านคน แต่ได้รับงบ 1.3ล้านล้านบาท เฉลี่ยต่อคนจะได้ 6 แสนบาทต่อคน

อย่างไรก็ดี นายอิสระ เสนอแนะว่า สำหรับภาพรวมของงบประมาณปี 2566 ต้องแก้ไข คือ งบที่เกินตัวและไม่จำเป็น เช่น รถประจำตำแหน่ง 900 ล้านบาท, งบเดินทางไปต่างประเทศ 2,000 - 3,000 ล้านบาท และ งบที่ปรึกษา ตัดและนำมาแก้ปัญหาหนี้ให้ประชาชน นอกจากนนี้ต้องแก้ระเบียบที่ทำให้เกิดคอร์รัปชั่น งบหลังกำแพง งบซ่อนแอบ และเงินทอน ทั้งนี้ เหลือเวลาไม่ถึงปีขอให้นายกฯ เอาจริงเอาจังหากได้เงินดังกล่าวกลับมาจะทำให้คนเข้าถึงแหล่งทุน เสนอเลิกบรรจุคนเพิ่ม เกลี่ยคนที่มีอยู่ จากคนล้นงานไปที่งานล้นคนเพื่อให้เหลือเงินไปพัฒนาแรงงานเพื่อประชาชนและเพิ่มผลิตภาพพ้นจากกับดักค่าแรงขั้นต่ำ

อย่างไรก็ดี กรณีที่ ส.ส.ประกาศจะคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 66 ขอให้นึกถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่า ส.ส.คงคิดเหมือนกันว่า วันนี้ประเทศไทยเหมือนกับประเทศทั่วโลกที่เจอพิษรุมเร้า ดังนั้น ร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 ฉบับนี้เป็นเหมือนถังอ๊อกซิเจน หากคว่ำงบก็ไม่ต่างจากการดึงท่ออ๊อกซิเจนออก

 

ผมขอร้องว่า อย่ามองงบฉบับนี้เป็นเรื่องร้าย ประชาชนไม่ใช่ขอทาน รัฐบาลไม่ใช่ขอทาน ประชาชนยิ่งไม่ใช่คนที่มารอรับเงินจากขอทาน ช่วยมองคนให้เท่ากัน ปรับงบ อย่าซ้ำเติมเพลิงเศรษฐกิจ ด้วยพิษการเมืองของสภา