“สมาคมรถโดยสารฯ” ส่อหยุดเดินรถ-ลดเที่ยววิ่ง เหตุต้นทุนน้ำมันพุ่งหนัก

13 มิ.ย. 2565 | 15:01 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มิ.ย. 2565 | 22:05 น.

“สมาคมกิจการรถโดยสารฯ” จ่อลดเที่ยววิ่งลง-หยุดเดินรถบางเส้นทาง เหตุแบกรับต้นทุนน้ำมันไม่ไหว หลังเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยเที่ยวละ 1,400 บาท วอนรัฐเร่งพยุงธุรกิจการเดินรถช่วยประชาชน

นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา จากค่าโดยสารเมื่อปี2562 ที่ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละประมาณ 27 บาท จนถึง ณ เวลานี้ ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 34 บาท ปรับเพิ่มขึ้นถึงลิตรละประมาณ 7 บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นเที่ยวละประมาณ1,400 บาท โดยเฉลี่ยหากวิ่งวันละ 50 เที่ยว ต้องแบกภาระเพิ่มขึ้นกว่าวันละประมาณ 70,000บาท ประกอบกับต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆที่ทยอยปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางต้องทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเพียงเพื่อให้สามารถเป็นช่องทางการเดินทางที่ประหยัด และสะดวกที่สุดแก่ประชาชน 

“ขอให้ภาครัฐพิจารณาแนวทางการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการใช้อัตราโครงสร้างค่าโดยสารที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อปี 2548 ซึ่งเป็นอัตราที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่จนถึงขณะนี้ รัฐบาลไม่มีทีท่าจะให้การเหลียวแลแต่อย่างใด ขณะที่การขนส่งทางอากาศ และทางน้ำได้มีการปรับค่าโดยสารกันไปแล้วก่อนหน้านี้” 

นายพิเชษฐ์  กล่าวต่อว่า มาตรการที่กรมการขนส่งทางบก ให้ความช่วยเหลือผ่านบริษัท ขนส่ง จำกัด นั้น ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ใดๆ บริษัท ขนส่ง จำกัดยังคงเดินหน้าเก็บค่าบริการต่อเที่ยวตามปกติ และยังคงเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าที่มีผลต่อเฉพาะรถร่วมบริการขนส่ง บ้างเล็กน้อย แต่ไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างเป็นรูปธรรม ยั่งยืนและต่อทั้งระบบของรถโดยสารประจำทาง อีกทั้งยังไม่ใช่แนวทางแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนอย่างถูกต้องและยั่งยืน

 

 

 

“ขอเป็นตัวแทนในการกล่าวขอโทษประชาชนผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการรถโดยสารในชีวิตประจำวัน ว่าผู้ประกอบการรถโดยสารจะพยายามยืนหยัดเพื่อเคียงข้างการให้บริการให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถดำเนินการได้ โดยระหว่างที่ยังไม่มีทางออกในการแบกรับต้นทุนนี้ อาจต้องส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบในความไม่สะดวกในการใช้บริการเนื่องจากบรรดาผู้ประกอบการต้องลดเที่ยววิ่งลงและทยอยหยุดการให้บริการในบางเส้นทาง ซึ่งเป็นทางเลือกทางสุดท้ายก่อนที่อาจต้องปิดกิจการถาวรในที่สุด และขอขอบคุณประชาชนผู้โดยสารทุกท่าน ที่เข้าใจและเป็นกำลังใจในการประกอบการเดินรถโดยสารของไทยมาโดยตลอด”