ประเทศไทยเพิ่งได้รับข่าวดี ปี 2567 ที่ผ่านมาถือเป็นปีทองไทยส่งออกข้าวได้ 9.95 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13% นำรายได้เข้าประเทศสูงถึง 225,656 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27% ซึ่งปริมาณการส่งออกข้าวดังกล่าวเป็นปริมาณส่งออกที่สูงที่สุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2561
อย่างไรก็ดี เวลานี้สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขายได้ และราคาข้าวสารส่งออกของไทยกำลังกลับมาอยู่ในช่วงขาลงอีกครั้ง หลังจากที่อินเดียผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกได้กลับมาส่งออกข้าวในกลุ่มข้าวขาว ซึ่งเป็นกลุ่มข้าวใหญ่สุดเช่นเดียวกับการส่งออกข้าวของประเทศไทย ขณะที่ผลผลิตข้าวทั่วโลกในปีนี้มีทิศทางแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากมีน้ำในการทำนาเพิ่มขึ้น
อีกด้านหนึ่ง การส่งออกข้าวของไทยไปตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นลาดสำคัญในกลุ่ม 10 อันดับแรก กำลังเผชิญความเสี่ยง หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ประกาศจะขึ้นภาษีสินค้าจากทั่วโลก นำร่องจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และจีนอีก 10% เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ “ ฐานเศรษฐกิจ” โดยยอมรับว่ามีความกังวลต่อความเสี่ยงที่สินค้าข้าวของไทยอาจถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้า จากเดิมในสินค้าข้าวสหรัฐไม่เก็บภาษีนำเข้าจากทุกประเทศ ทั้งนี้หากสหรัฐเก็บหรือขึ้นภาษีนำเข้าจะส่งผลกระทบ สินค้าข้าวของไทยจะมีราคาสูงขึ้น และอาจขายยากขึ้น นอกจากนี้จะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น และมีค่าครองชีพที่สูงขึ้น
“ที่ผ่านมาไทยส่งออกข้าวไปสหรัฐอเมริกาปีหนึ่งประมาณ 6 แสนตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นข้าวพรีเมี่ยมราคาสูงของไทย ซึ่งหากสหรัฐปรับขึ้นภาษีอาจส่งผลกระทบทำให้ไทยส่งออกข้าวไปสหรัฐได้ลดลง ทั้งนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าเขาจะมายุ่งกับสินค้าอาหารหรือไม่"