กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการผลักดันธุรกิจบันเทิงสู่ตลาดโลก โดยล่าสุดร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรม กรมการท่องเที่ยว และสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA) นำผู้ประกอบการไทย 37 บริษัท สร้างโอกาสทางธุรกิจ
โดยผ่านงาน Hong Kong International Film & TV Market 2025 (FILMART) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายคอนเทนต์ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งภายใต้นโยบายส่งเสริม Soft Power ของรัฐบาลไทย ภาคอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะ ภาพยนตร์ ละคร และซีรีส์ เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง
กรมจึงมุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ผ่านการสนับสนุนด้านการตลาด การจับคู่ธุรกิจ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และผลักดันคอนเทนต์ไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก
สำหรับงานดังกล่าวนั้น ถือเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ระดับโลก ซึ่งในแต่ละปีดึงดูดผู้ซื้อกว่า 7,000 รายจากทั่วโลกที่มองหาภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ ละคร ซีรีส์ รวมถึงการบริการด้านการผลิตภาพยนตร์ ตั้งเป้าสร้างมูลค่าเจรจาการค้าไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
งาน FILMART มีความสำคัญที่จะช่วยสร้างรายได้ รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และบริการเกี่ยวเนื่องของไทยให้เติบโตสู่ตลาดโลก
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานจำนวน 37 บริษัท ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชัน (Film Production and Distribution) จำนวน 15 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้แก่ประเทศ ทั้งในระดับรายใหญ่และรายเล็ก
กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Production and Post-Production Services) จำนวน 6 บริษัท เป็นผู้ให้บริการที่มีบุคลากรมืออาชีพระดับสากลที่พร้อมรองรับการจ้างผลิตต่างๆ รวมถึงภาพยนตร์ต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย
กลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรายการและละครโทรทัศน์ (Television Content and Formats) จำนวน 6 บริษัท เป็นบริษัทที่ครอบคลุมรายการบันเทิง เกมโชว์ และละครโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมสูง และกลุ่มบริษัทคอนเทนต์วาย (Content Y) จำนวน 10 บริษัท ที่มีซีรีส์คอนเทนต์หลากหลายรูปแบบตอบรับกระแส BL และ GL ของไทยซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วโลก
การเข้าร่วมงานจะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างประเทศ การรับจ้างผลิต และการขยายเครือข่ายทางธุรกิจในระดับสากล อีกทั้งยังเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และคอนเทนต์ไทยในตลาดโลกอย่างแท้จริง