แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังหาทางเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (Entertainment Complex) ล่าสุดอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นร่างที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา วาระที่หนึ่งแล้ว โดยขั้นตอนต่อจากนี้จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 4 มีนาคม 2568 หากครม.เห็นชอบจะนำเข้าสู่กระบวนการของรัฐสภาต่อไป
"ตอนนี้กฎหมายกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 1 มีนาคม นี้ จากนั้นจะนำความคิดเห็นมาประมวล และรายงานให้ครม.รับทราบด้วย โดยการดำเนินการจะทันตามกำหนด 50 วัน เพราะตอนนี้ได้รับการยืนยันชัดเจนว่าจะเสนอเข้าครม.วันที่ 4 มี.ค.นี้" แหล่งข่าว ระบุ
สำหรับร่างพ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ฉบับใหม่ ที่ผ่านการปรับปรุงจากคณะกรรมการกฤษฎีกา รอบที่ 1 มีทั้งหมด 8 หมวด และบัญชีแนบท้าย โดยกำหนดให้ "สถานบันเทิงครบวงจร" หมายความว่า การประกอบธุรกิจสถานบันเทิง ตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน และกำหนดให้ "กาสิโน" หมายความว่า การจัดให้มีการเข้าเล่น หรือ การเข้าพนันในสถานที่ที่กำหนดเป็นการเฉพาะ ส่วนเนื้อหาในหมวดต่าง ๆ ประกอบด้วย
หมวด 1 บททั่วไป กำหนดหลักการพื้นฐาน : ร่างกฎหมายกำหนดให้การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะกระทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้เท่านั้น โดยการกำหนดพื้นที่ตั้งต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องระบุแนวเขตที่ดินและแผนที่ให้ชัดเจน พร้อมกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องสนับสนุนการพัฒนาควบคู่กับการป้องกันผลกระทบต่อสังคม
หมวด 2 คณะกรรมการนโยบาย กำหนดโครงสร้างการบริหาร : กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีรัฐมนตรีจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ พร้อมด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 6 คน มีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี และดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว
หมวด 3 สำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจ จัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแล : กำหนดให้จัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล แต่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่กำกับ ดูแล ควบคุม ส่งเสริม และสนับสนุนการประกอบธุรกิจ
หมวด 4 พนักงานเจ้าหน้าที่ กำหนดอำนาจการตรวจสอบ : ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการ เรียกเอกสารหลักฐาน ตรวจสอบระบบเทคโนโลยี และมีอำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด
หมวด 5 การขออนุญาตและเงื่อนไขการประกอบธุรกิจ กำหนดคุณสมบัติผู้ประกอบการ : กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51% โดยใบอนุญาตจะมีอายุ 30 ปีและสามารถต่ออายุได้คราวละ 10 ปี
ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องมีประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจสถานบันเทิง หรือ กาสิโนมาไม่น้อยกว่า 10 ปี และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือมีประวัติเสื่อมเสียด้านการเงิน
ผู้บริหารและกรรมการต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด และไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเสนอแผนการลงทุนและการดำเนินงานที่ชัดเจน รวมถึงมาตรการป้องกันผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การรักษาความปลอดภัย และระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการป้องกันการฟอกเงินและการทุจริต
หมวด 6 การควบคุมการประกอบธุรกิจ มาตรการเข้มงวดป้องกันผลกระทบ : กำหนดมาตรการควบคุมที่เข้มงวด โดยเฉพาะการจัดการพื้นที่กาสิโนที่ต้องแยกเป็นเอกเทศ มีรั้วและประตูแยก พร้อมระบบควบคุมการเข้าออก สำหรับคนไทยที่ต้องการเข้ากาสิโน ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ผ่านการลงทะเบียน และต้องมีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
อีกทั้งยังห้ามให้บริการกาสิโนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ห้ามถ่ายทอดการเล่น ห้ามโฆษณาหรือเชิญชวน และห้ามจ้างบุคคลเพื่อเพิ่มยอดหรือจำนวนผู้เล่น รวมถึงมีข้อห้ามเด็ดขาดสำหรับการนำอาวุธเข้า การค้าประเวณี การมึนเมาจนวุ่นวาย และการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
หมวด 7 บทกำหนดโทษ เพิ่มบทลงโทษชัดเจน : กำหนดบทลงโทษเป็นลำดับขั้น โดยการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ส่วนกรณีผู้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนกฎหมายจะมีการตักเตือนและให้แก้ไขก่อน หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับสูงสุด 5 ล้านบาทหรือ 0.5% ของรายได้ทั้งปี และอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตในที่สุด
หมวด 8 บทเฉพาะกาล เตรียมความพร้อมก่อนบังคับใช้ : กำหนดการเตรียมการในช่วงเริ่มต้น โดยให้มีคณะกรรมการชุดแรก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ต้องแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายใน 30 วัน และจัดสรรงบประมาณเริ่มต้นสำหรับการดำเนินงาน
บัญชีแนบท้าย กำหนดประเภทธุรกิจและค่าธรรมเนียม : ระบุประเภทธุรกิจที่สามารถดำเนินการในสถานบันเทิงครบวงจร 10 ประเภท รวมถึง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานบริการ สนามกีฬา และ สวนน้ำ พร้อมกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ
สำหรับใบอนุญาตครั้งแรกและการต่ออายุ มีค่าธรรมเนียมฉบับละ 5,000 ล้านบาท และมีค่าธรรมเนียมรายปีๆ ละ 1,000 ล้านบาท ส่วนค่าเข้ากาสิโนสำหรับคนไทยกำหนดไว้ที่ครั้งละ 5,000 บาท