ชาวนาจี้ประกันรายได้ตันละหมื่น พ่วงไร่ละ 500 งดเผา สวนทางปาล์มพุ่งรอบ 2 ปี
ราคาข้าวเปลือกตกสวรรค์ ข้าวรอบนาปรัง หดเหลือแค่ 7,000 -8,000 บาทต่อตัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 12,000-12,700 บาทต่อตัน ต้นเหตุชาวนาภาคกลางลุกฮือประท้วงกดดันรัฐขอประกันรายได้ 1-1.2 หมื่นบาทต่อตัน สวนทางราคาปาล์มพุ่งสูงสุดรอบ 2 ปี
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวนาภาคกลางลุกฮือปิดถนนสายเอเชีย ประท้วงราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยราคาข้าวเปลือกรอบนาปรังที่ชาวนาเริ่มเก็บเกี่ยว ข้าวเปลือกความชื้นที่ 15-25% ขายได้เพียงระดับ 6,000 -8,000 บาทต่อตัน โดยชาวนาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการประกันรายได้ หรือประกันราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้ที่ 10,000-12,000 บาทต่อตัน นอกจากนี้ขอรัฐบาลจ่ายชดเชยไร่ละ 500 บาท กรณีไม่เผานา หรือตอซังข้าว ที่ถูกระบุเป็นอีกส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5
อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ จากข้อมูลของสมาคมโรงสีข้าวไทย ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้ ณ ปัจจุบัน(อ้างอิงราคา ณ วันที่ 14 ก.พ. 2568)
ยกตัวอย่าง ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% เฉลี่ยที่ 8,500-8,900 บาทต่อตัน และความชื้น 25% เฉลี่ยที่ 7,300-7,700 บาทต่อตัน เทียบกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ขายได้เฉลี่ยที่ 12,100-12,500 บาทต่อตัน และความชื้น 25% เฉลี่ยที่ 10,600-11,000 บาทต่อตัน หรือราคาปรับตัวลดลง 3,300-3,600 บาทต่อตัน
ส่วนในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ราคาข้าวเปลือกเจ้า (ณ วันที่ 14 ก.พ. 2568 ) ความชื้น 15 % เฉลี่ยที่ 8,200-8,600 บาทต่อตัน และความชื้น 25% เฉลี่ยที่ 7,000-7,400 บาทต่อตัน เทียบกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% เฉลี่ยที่ 12,300-12,700 บาทต่อตัน และความชื้น 25% เฉลี่ยที่ 10,800-11,200 บาทต่อตัน หรือราคาลดลง 3,800-4,100 บาทต่อตัน
ขณะที่ตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ (ช่วงวันที่ 10-14 ก.พ. 2568) ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาอยู่ที่กระสอบละ 1,350 บาท ลดลงจากกระสอบละ 1,420 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาอยู่ที่กระสอบละ 1,130 บาท ลดลงจากกระสอบละ 1,180 บาท
ด้านตลาดซื้อขายข้าวต่างประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 469 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นตันละ 445 ดอลลาร์สหรัฐ และปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 396 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นตันละ 380 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับราคาข้าวเปลือกและราคาข้าวสารของไทยที่ปรับตัวลดลงในเวลานี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยระบุ มีส่วนสำคัญจากการกลับมาส่งออกข้าวในกลุ่มข้าวขาวของอินเดีย(ผู้ส่งอออกข้าวอันดับ 1 ของโลก)นับแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ซัพพลายข้าวในตลาดโลกมีมาก รวมถึงประเทศผู้นำเข้าข้าวหลายประเทศประกาศไม่นำเข้าข้าว/ลดการนำเข้า จากปีนี้มีน้ำในการทำนา รวมถึงข้าวไทยมีคู่แข่งการส่งออกข้าวในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศของไทยปรับตัวลดลงดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในสินค้าปาล์มน้ำมัน ราคาผลปาล์มทะลายในเวลานี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก สวนทางกับราคาข้าวที่ลดลง โดยราคาผลปาล์มทะลายที่เกษตรขายได้ ณ เวลานี้ เฉลี่ยที่ 9.90-10.30 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 2 ปี มีปัจจัยจากผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลปาล์มทะลายของเกษตรกรมีน้ำหนักลดลงจากทะลายละ 40-50 กิโลกรัม เหลือเฉลี่ย 25-30 กิโลกรัม ส่งผลให้มีผลผลิตลดลง และขายได้ราคาสูงจากซัพพลายผลผลิตออกสู่ตลาดมีน้อย