นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีนโยบายประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัล ทรัมป์ ประกาศนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน แคนาดา และเม็กซิโก ว่า เรื่องนี้ต้องมีการหารือกันและร่วมกันออกมาตรการ ทั้งด้านการส่งเสริมและด้านการรับมือกับผลกระทบต่างๆ ช่วย ซึ่งหากรัฐบาลมีการพูดคุยกันอย่างลงตัวแล้วก็จะมีการแถลงนโยบายตามลำดับ
“แน่นอนว่าปีนี้เป็นปีที่มีความไม่แน่นอน ไม่ได้บอกว่าเป็นความเสี่ยงแต่เป็นความไม่แน่นอน ที่อาจจะเกิด ผลกระทบ ในมุมดีก็ได้ถ้าหากไทยสามารถหาโอกาสได้ หรือจะเป็นผลกระทบในมุมไม่ดีก็ได้ถ้าหาก ไทยไม่ตื่นตัวกับเรื่องนี้ ส่วนกระทรวงการคลังก็ต้องทำงานร่วมกับ หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงภาคส่วนต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น”
ส่วนกรณีการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้น รัฐบาลพยายามรักษาเสถียรภาพ และโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาตัวเลข ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยเรานั้นดี และเชื่อว่าจะดีต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลยังมีกลไกต่างๆในการที่จะรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ
โดยช่วงที่ผ่านมาแล้วจะเห็นว่ามีการกระจายเม็ดเงินโครงการ 1 หมื่นบาท ให้กับ กลุ่มเปราะบางและ เม็ดเงินรวมมากกว่า 1.4 แสนล้านบาท ในช่วงปลายปี 2567
ทั้งนี้ ในปี 2568 ต่อด้วยโครงการอีซี่ อี-รีซีท 2.0 ที่ลดหย่อนภาษี สำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่ 16 มกราคม ที่ผ่านมาและรัฐบายังมีโครงการ 1 หมื่นบาท สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่โอนเงินไปเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมานอกจากนี้ในช่วงโลซีซั่นนั้นรัฐบาลจะมีการกระจายเม็ดเงิน 10,000 บาทอีกหนึ่งระลอก ซึ่งทั้งหมดนี้คือการรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้ตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังดี การบริโภคและเสถียรภาพดี
อย่างไรก็ตาม มีภาคส่วนที่ยังต้องดูแล อย่างใกล้ชิดก็คือเรื่องของภาคการผลิตต่างๆซึ่งรัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังให้มากกว่านี้ โดยต้องมีการสนับสนุนเพิ่มเติมโดยเฉพาะเรื่องของสินเชื่อซึ่งในส่วนของสถาบันการเงินของรัฐยังอยู่ในภาวะที่ดี ส่วนของธนาคารพาณิชย์นั้นจะต้องมีการขอความร่วมมือเพื่อกระจายสินเชื่อไปสู่พี่น้องประชาชนให้มากยิ่งขึ้น
“ดัชนีตลาดหุ้นที่ลดลงไปในวันนี้เราต้องไม่ดูการแปรผันของราคาในระยะสั้น ยังไม่สะท้อนอะไร ควรจะต้องดูในทิศทางระยะยาวว่าพื้นฐานของประเทศเป็นอย่างไร เพราะที่สุดแล้วราคาหุ้นในระยะสั้นมีความผันผวนแน่นอน แต่ในระยะยาวราคาหุ้นก็จะกลับเข้าสู่พื้นฐานของประเทศ ซึ่งรัฐบาลยังมั่นใจว่าพื้นฐานของประเทศไทยนั้นดีตัวเลขทางเศรษฐกิจทุกอย่างก็บ่งบอกออกมาว่าอยู่ในทิศทางขาขึ้น ประเทศเราดีขึ้น จากช่วงที่ผ่านมาเยอะ”
ส่วนกรณีของสินเชื่อรถยนต์นั้นโดยเฉพาะสินเชื่อรถกระบะนั้นมีปัญหาในเรื่องของกำลังซื้อในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา รถกระบะนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพ การที่การซื้อขายรถกระบะมีปัญหาสะท้อนเห็นว่าการประกอบอาชีพของคนไทยนั้นกำลังมีปัญหา ทำให้การอนุมัติสินเชื่อ รถกระบะ หดตัว ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงการคลังก็ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อหาข้อสรุปเพื่อที่จะหามาตรการช่วยเหลือต่อไป