คลังแก้หนี้นอกระบบรวม 1.8 พันล้าน ดูแลประชาชนกว่า 5.2 หมื่นราย

31 ม.ค. 2568 | 12:39 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2568 | 12:42 น.

คลังรายงานความคืบหน้า “แก้หนี้นอกระบบ” ผ่านออมสิน-ธ.ก.ส. ระบุดูแลประชาชนแล้วกว่า 5.2 หมื่นราย มูลค่ารวม 1.8 พันล้าน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลังที่ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 

ผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ ได้แก่ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ 

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โดยผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 30 มกราคม 2568 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วจำนวน 52,372 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 1,857.17 ล้านบาท

“เพิ่มขึ้นจากแถลงข่าวกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 จำนวน 1,392 ราย และมียอดอนุมัติเพิ่มขึ้น 49.18 ล้านบาท”

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังมีนโยบายส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบจากเจ้าหนี้นอกระบบที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมทั้งยังเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาให้บริการสินเชื่อในระบบอย่างถูกกฎหมาย 

โดยปัจจุบัน ณ เดือนมกราคม 2568 มีนิติบุคคล (บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้ว 1,149 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,840,118 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 46,980.33 ล้านบาท โดยเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 388,997 บัญชีเป็นจำนวนเงินรวม 7,297.18 ล้านบาท 

ทั้งนี้ นิติบุคคลที่สนใจประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถดูข้อมูลการยื่นคำขออนุญาตได้ที่ www.1359.go.th หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1359