“เผ่าภูมิ” รมช.คลัง ถกทูตลักแซมเบิร์ก ร่วมมือ Financial Hub

31 ม.ค. 2568 | 15:44 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2568 | 15:48 น.

“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง ถกเอกอัครราชทูตลักแซมเบิร์ก ร่วมมือ Financial Hub 2 ประเทศ ชงครม. ต้นเดือนก.พ.นี้

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้ได้ต้อนรับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย และได้หารือถึงการจัดตั้งศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial Hub) ของไทย ซึ่งจะเข้า ครม. ในช่วงต้นเดือน ก.พ. 68 

“เผ่าภูมิ” รมช.คลัง ถกทูตลักแซมเบิร์ก ร่วมมือ Financial Hub

สำหรับFinancial Hub เป็นนโยบายของรัฐบาลไทยที่ต้องการยกระดับไทยในเวทีการเงินของโลกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการเงินในประเทศ รวมทั้งพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินของประเทศ

โดยจะเปิดให้นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและสาขาของนิติบุคคลต่างประเทศ 8 ประเภท ได้แก่

  1. ธุรกิจธนาคารพาณิชย์
  2. ธุรกิจบริการการชำระเงิน
  3. ธุรกิจหลักทรัพย์
  4. ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  5. ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
  6. ธุรกิจประกันภัย
  7. ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ
  8. ธุรกิจทางการเงินหรือธุรกิจอื่น เข้าทำธุรกิจใน Financial Hub

ทั้งนี้ จะตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (One Stop Authority: สำนักงาน OSA ) ขึ้นเป็นหน่วยงานของรัฐใหม่เพื่อให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร (End to end) ทั้งการออกใบอนุญาต กำหนดสิทธิประโยชน์ กำกับดูแล รวมถึงการเพิกถอน

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์ก ได้แสดงความสนใจใน Financial Hub ไทย โดยเห็นว่า พ.ร.บ. ดังกล่าว ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของภาคการเงินไทย ทั้งนี้ ลักเซมเบิร์กถือเป็นประเทศที่มีความทันสมัยและมีศักยภาพธุรกิจทางการเงินสูงแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งการที่ไทยมีกฎหมายมารองรับเรื่องนี้อย่างเต็มที่เป็นทิศทางที่ถูกต้อง 

ทั้งนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนการเป็น Cross-Border Financial Centre ของลักแซมเบิร์กที่มีที่ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรปมาปรับใช้ในการพัฒนา Financial Hub ของไทย เนื่องจากไทยมีที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคอาเซียนเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสให้การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศลักแซมเบิร์กและไทยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินร่วมกันต่อไป