“ชีวิตยุคใหม่ไปได้สวยด้วยมืออาชีพ (10)

07 ต.ค. 2566 | 06:30 น.

“ชีวิตยุคใหม่ไปได้สวยด้วยมืออาชีพ (10) : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย…ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูลหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3929

เจ้านาย บริษัท คึกคัก จำกัด มักจะนัดจัดประชุมลูกน้อง ในช่วงบ่ายของวันศุกร์ เวลา 16.00 น. ลูกน้องถามว่า “ทำไมเลือกช่วงนี้” เจ้านายยิ้มแล้วตอบว่า “มันเป็นเวลาที่ไม่มีใครอยากเถียงกับผม” (ฮา!)

เมื่อเร็ววันนี้ ลูกน้องโทรมาแสดงตัวตนว่า “สวัสดีครับ เจ้านาย วันนี้ฝนตกหนัก น้ำแรงแทงท่วมถนน ผมขออนุญาตไม่เสี่ยงลุยเข้าสำนักงาน นะครับ”

เจ้านาย ปรารภทบทวนราวกับว่า มีเลขาสาวถือสคริปต์ให้อ่านก็ไม่ปานว่า “ฮั่นแน่ ผมจำได้นะ คุณระบุไว้ในใบสมัครงานว่า มีความสามารถพิเศษ ว่ายน้ำเล่นเป็นงานอดิเรก ใช่อ๊ะเปล่า วันนี้ คุณ กับ ผม เจอกัน เวลา 11.00 น. ผมเลี้ยงมื้อเที่ยงเอง นะจ๊ะ” (ฮา!)

 

แน่นอนอยู่แล้วว่า ลูกน้อง คงสะอึกจุกอกขำไม่ออก หลังจากเอาไปนินทาลับหลังคล้ายกับซ้อมอภิปรายซักฟอก เล่าให้เพื่อนบ้านฟังทุกซอยทุกซอก ขอบอกว่าใครรู้เขาก็จะฮาจนในที่สุดกระแสพัดพาให้ตัวเองขำด้วย

มูลนิธิ Edward Lowe มลรัฐ  Michigan เบิกกลเม็ดตลกหลวง ยุสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง คณะกรรมการหรรษา (Fun Board) โดย จัดกิจกรรมอารมณ์ขันในรูปแบบที่เหมาะสม นำมาใช้เป็นเครื่องมือสร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กรเพื่อหวังผลต่อการคลายเครียด เข้าล็อคที่ว่า “มุกตลกไม่มีวันตาย!”

แม่ไม้สไตล์นี้ไม่ใช่ 1 ใน 11 หลัก ที่จัดวางสร้างรากฐานไว้ว่า เป็นคุณลักษณะ ของ “มืออาชีพ” ก็จริงอยู่ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมืออาชีพควรจะผ่อนคลายอารมณ์บ่มเพาะมุก และรอยยิ้มเอาไว้บ้าง จะดูน่ารักมีเสน่ห์เป็นกันเอง

เจ้านาย ยิ้มมีเลศนัย ถาม ลูกน้อง ชื่อว่า ลูกกลิ้ง ว่า “คุณลูกกลิ้งเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายไหม?”

ลูกกลิ้ง ให้ความเห็นว่า “ไม่มีหลักฐานยืนยันเป็นชิ้นเป็นอันเลยนะคะ!” เจ้านายหัวเราะชวนฉงน พร้อมกับบอกว่า “ตอนนี้มีแล้ว หลังจากที่ ลูกกลิ้ง ลากิจไปรดน้ำศพคุณยายที่นครปฐมเมื่อวาน ผมก็กะว่ามะรืนนี้จะไปเยี่ยม คุณยาย สักหน่อย วันนี้ คุณยาย เป็นห่วง ลูกกลิ้ง แกโทรมาคุยกับ เลขา ฝาก เลขาให้ช่วยบอก ลูกกลิ้ง ว่า อย่าแวะเดินเล่นในห้าง ปีนี้เขายิงกันบ่อย!” (ฮา) สงสัยยายจะกลิ้งเพราะลูกกลิ้งนี่แหละ บาปนะ อิๆ… 

วัยเรียนก็โดดเรียน วัยทำงานก็โดดงาน ภาระ แปลว่า หนัก รับมาแล้วก็ต้องแบก คนทั่วไปมักจะพูดจาตัดบทกันบ่อยว่า “เป็นไปไม่ได้” ใครคิดแบบนี้ต้องไปลองของเป็นพนักงานหน้าห้องรัฐมนตรี เขามีสโลแกนฝังอยู่ในหัวว่า “ไม่ได้…ไม่ได้” แปลว่า “ต้องได้!”

                        “ชีวิตยุคใหม่ไปได้สวยด้วยมืออาชีพ (10)

จอช บิลลิงส์ มีชื่อจริงว่า Henry Wheeler Shaw เป็นชาวอเมริกัน ท่านเป็น นักเขียน นักแสดงตลก และ วิทยากรด้านอารมณ์ขัน หนึ่งในหลายคติพจน์ของท่าน คือ “จงทำตัวให้เหมือนกับแสตมป์ ติดอยู่กับสิ่งที่คุณต้องดูแลจนกว่าจะสุดปลายทาง”

ลูกศิษย์เคยเล่าให้ผมฟังว่า เพื่อนเขามีอาการเซ็งขึ้นสมอง เพราะโดนดองตำแหน่งแบบขั้นไม่เลื่อน อัตราเงินเดือนก็แช่แข็ง เขาจึงเอาจดหมายลาออกไปยื่นให้กับผู้จัดการ พร้อมกับจงใจพูดให้เสียงดังกว่าปกติว่า

“ผมเบื่อ ผมขอลาออก!” ผู้จัดการก็พูดหลุดปากโพล่งออกมาว่า “ผมก็อยากให้คุณลาออกไปตั้งนานแล้ว!” เขาหยุดชะงักแล้วตัดสินใจดึงซองจดหมายลาออกกลับ แล้วก็บอกผู้จัดการว่า “ถ้างั้น ผมอยู่ต่อ นับแต่นี้เป็นต้นไป ผมจะอยู่ให้มันสุดซอย ให้มันรู้กันไปข้างหนึ่ง…” พูดอีหรอบนี้เรื่องสั้นฉับพลันกลายเป็นนวนิยาย 

ถ้าผมเป็นผู้จัดการในเคสนั้น ก็จะคิดก่อนว่า เอาไว้ หรือ เอาออก ปักหมุดแล้วก็พูดฉันมิตรกับพนักงานที่มาโวยวายขอลาออกว่า “เฮ้ย! ถ้าคุณลาออกผมก็จะไปยื่นจดหมายลาออก คุณเป็นมือเป็นไม้เป็นหูเป็นตาให้ กับโรงงานมานาน ผมดูแลทั้วถึงบ้างตกหล่นบ้างก็ต้องขอโทษ จะให้ดีมีอะไรอึดอัดคุณน่าจะมาคุยกับผมเงียบๆ

คุณตะโกนดังจนคนเขาได้ยินไปทั่วแล้วจะทำไงล่ะ คนที่ได้ยินเขาก็รอดูว่าคุณพูดแล้วจะทำตามคำพูดหรือเปล่า เสียดายจริงๆ ที่ไม่ได้ปรึกษากันเลย ก็เอาเป็นว่าผมขอรับจดหมายลาออกนี้ไว้ คุณจะได้ไม่เสียศักดิ์ศรี” (ฮา)

ผมจัดอบรมคอร์ส Communicate YES UP ให้ วัดหงส์รัตนาราม เพราะเป็นหลักสูตรที่เรียนรู้แล้วจะเข้าใจกลเม็ดการลดลาวาศอก ไม่พูดให้หัวใจใครถลอกเพราะหวังจะถลก ใครหงุดหงิดง่ายมักจะ “พูดปฏิเสธปัดทิ้ง” ว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่”

เมื่ออารมณ์ปกติก็มักจะ “พูดแบบผ่อนสั้น” ว่า “ใช่นะ…แต่ว่า” ผมจึงฝึกให้พระปรับหลักเทศนาด้วยการ “พูดแบบผ่อนยาว” ว่า “ที่เขาบอกกล่าวก็ใช่ ที่เราจะนำเสนอก็ใช่” 

อันที่จริงหลักสูตรนี้ “สื่อได้ความ (ยุคใหม่) ใช่เลย” ผมจัดทำเอาไว้สำหรับการอบรมบุคลากรบริษัทเอกชน และหน่วยงานราชการเพื่อยกระดับทักษะขึ้นเป็น “นักนำเสนอมืออาชีพ”

เล่ามุกส่งท้ายคลายง่วง เจ้านาย ลุกขึ้นยืนถามลูกน้องในห้องประชุมว่า  “เงียบกริบกันหมดเลย คิดไม่ออกล่ะสิ ใครคิดว่าตัวเองโง่ก็ยืนขึ้น!” ไม่มีใครยืนขึ้น นอกจาก นายลองเชิง เจ้านาย เอ่ยถามนายลองเชิง ว่า “ลองเชิง คุณคิดว่าคุณโง่เหรอ?” นายลองเชิงตอบสวนกลับมาว่า “เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกเป็นห่วงที่ เจ้านาย ยืนอยู่คนเดียว จึงลูกขึ้นยืนเป็นแนวร่วมอ่ะครับ” (ฮา)

นอนแสดงว่าไม่แน่ แน่แสดงว่าไม่นอน ลองเชิง จะนอนหรือไม่นอน บอกได้แน่นอนว่าไม่แน่ไม่นอน