2 วิกฤติทุบท่องเที่ยวพัทยาวูบ

24 ก.พ. 2563 | 06:10 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2564 | 19:20 น.
11.4 k

 

เจอแรงกระแทกจากพิษไวรัสโคโรนา ทำเอาเครื่องยนต์ตัวสำคัญอย่าง ภาคท่องเที่ยวแทบล้มทั้งยืน  ยังไม่นับรวมโจทย์เก่าที่เป็นวิกฤติ อย่างสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ หรือแม้แต่วิกฤติภายในประเทศที่เข้าข่ายกำลังซื้อชะลอตัว  เมื่อไล่สำรวจแค่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างพัทยาที่เดียวในเวลานี้ นักท่องเที่ยวคนจีนหายไปเกือบหมด 

นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยว เมืองพัทยา ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความเคลื่อนไหวในพื้นที่และความพร้อมในการรับมือว่า ปัจจุบันสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยว เมืองพัทยามีสมาชิกในพื้นที่ราว 100 ราย  ปี 2563  เป็นปีที่ท่องเที่ยวเมืองพัทยาเจอวิกฤติ 2 ส่วน   

2 วิกฤติทุบท่องเที่ยวพัทยาวูบ

เอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์

-จากภัยแล้งมาสู่โคโรนาวิกฤติ2เด้ง 

 ส่วนแรกเป็นผลกระทบจากวิกฤติภัยแล้ง ที่เกรงว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการรายเล็กที่มีขนาดห้องพัก 20 ห้องขึ้นไป  ยังไม่นับรวมผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ให้เช่า  ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่วนใหญ่ก็เตรียมความพร้อมโดยมีแหล่งน้ำสำรองเอาไว้แล้วบางส่วน  แต่กลุ่มผู้ประกอบการรายเล็ก สายป่านสั้นจะต้องแบกรับต้นทุนเรื่องน้ำที่สูงขึ้นก็จะลำบากขึ้น

2 วิกฤติทุบท่องเที่ยวพัทยาวูบ

“ ในแง่ภัยแล้งขณะนี้มีระดับความกังวลอยู่ราว 70%   เพราะไม่รู้ว่าฝนจะตกตามฤดูกาลหรือไม่  และปี 2563 เป็นปีที่วิกฤติภัยแล้งมากกว่าปี 2548  โดยปี 2563 เป็นภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ แต่ทางหนึ่งก็มีความมั่นใจในมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งจากภาครัฐที่เตรียมรับมืออยู่ในขณะนี้ด้วย”

สำหรับเสียงจากสมาชิกในสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา  อยากให้ภาครัฐบาลช่วยคือ สร้างอ่างเก็บน้ำแห่งใหม่เพิ่มขึ้นในจังหวัดชลบุรี  จะต้องมีแผนผันน้ำ และรีไซเคิลน้ำ  รวมถึงลงทุนนำน้ำทะเลมาผลิตน้ำประปา  การรีไซเคิลน้ำ และกักเก็บน้ำฝนให้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาเวลาเกิดวิกฤติน้ำก็ต้องวิ่งผันน้ำมาจากจังหวัดระยอง

รวมถึงวิ่งหาแหล่งน้ำจากชาวบ้านหรือเอกชน สำรองไว้ ทำให้ผู้ประกอบการต่างแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากการลงทุนซื้อน้ำสำรองไว้  ขณะเดียวกันผู้ประกอบการบางรายก็หาแหล่งน้ำสำรองจากชาวบ้านและเอกชนไม่ได้  รวมถึงคุณภาพน้ำที่ได้ไม่ดี สูบจนหมดบ่อก็จะเกิดตะกอนตกค้าง  พอมาถึงโรงแรมน้ำยังไม่พักตัว ตะกอนยังไม่นอนก้นทำให้น้ำขุ่น ซึ่งปัญหาเหล่านี้เมื่อปี 2548 เคยเกิดขึ้นแล้วและไม่อยากให้เกิดซ้ำรอยเดิมอีก   

 

ส่วนที่2 การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา  ที่มากระทบท่องเที่ยวเมืองพัทยาโดยตรง  และวันนี้กลายเป็นข้อวิตกหลักแทนวิกฤติน้ำแล้งไปแล้ว เนื่องจากบรรยากาศเริ่มเงียบเหงา ในยามปกติเมืองพัทยามีนักท่องเที่ยวปีละ 18 ล้านคน สัดส่วน 45% เป็นนักท่องเที่ยวไทย ที่เหลือ 55% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในจำนวนนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวจีน 2.5-3 ล้านคน ซึ่งตอนนี้หายไปแล้วเกือบ 100% แล้ว 

ดังนั้นนักท่องเที่ยวอีก 15 ล้านคน ก็ยังเป็นเรื่องยากที่ต้องรักษาไว้ เพราะนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นก็หายไปด้วยเช่นกัน เมื่อตัวเลขการติดเชื้อสูงขึ้นนักท่องเที่ยวก็ชะลอการเดินทาง ยกตัวอย่าง ประเทศเกาหลี พอมีข่าวเดินทางมาไทยแล้วติดเชื้อไวรัสไป ที่จองตั๋วไว้ก็ต้องยกเลิกไปทันทีหลายราย

“ดังนั้นในปี 2563 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวลดลงแน่ๆ แต่จะเป็นสัดส่วนเท่าไหร่จะต้องรอดูการแพร่ระบาดว่าจะควบคุมได้แค่ไหน”

-พัทยาเปิดแพกเกจกระตุ้นท่องเที่ยว

  สำหรับทางออกในเบื้องต้นนั้นนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยว เมืองพัทยา กล่าวว่า ล่าสุดจากการประชุมภาคเอกชนและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยของเมืองพัทยา กำลังรับมือและหาทางออกร่วมกัน โดยมีมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวดังนี้ 1.รณรงค์ไทยเที่ยวไทย 2.กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปิดเทอมในช่วงกลางเดือนมีนาคม-พฤษภาคมเป็นแพกเกจครอบครัว มีโปรโมชันเด็กพักฟรี 3.ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรีจะไปร่วมงานไทยเที่ยวไทย ในเดือนมีนาคมนี้ โดยบรรดาผู้ประกอบการจะมีแพกเกจดีๆไปนำเสนอในงานดังกล่าวที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม 2563 ที่ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา  4.ผู้ประกอบการบางรายมีโปรโมชันลดราคาห้องพักและโปรโมชันของแหล่งท่องเที่ยวออกมาเรียกความสนใจ

 “เมื่อปี 2561 สถิตินักท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากถึง 18.2  ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 264,543 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะมีรายได้มาจากเมืองพัทยาในอัตราที่สูง  และนอกจากพัทยาแล้วแหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมไปเที่ยว ไปรับประทานอาหารก็มีที่บางแสนและที่สัตหีบ  ปีนี้รายได้จากการท่องเที่ยวคงหายไปมาก  ที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวพัทยาเป็นจำนวนมากรองจากไปเที่ยวที่ภูเก็ต  สำหรับในแง่ผู้ประกอบการ ก็ได้แต่หวังว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะคลี่คลายได้ในเร็ววัน และยังมองว่าภาคท่องเที่ยวน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ราวปลายปี 2563 จะเริ่มกลับมาดีขึ้น  แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าในตอนนั้นไวรัสโคโรนาหยุดการแพร่ระบาดหรือยัง  เดิมเราคาดการณ์ว่าจะเกิดปัญหาแค่ 3-6 เดือน ตอนนี้ยังต้องรอดูสถานการณ์โดยรวมอีกครั้งก่อน  โดยส่วนตัว พยายามตั้งสติว่าปัญหานี้กังวลได้ แต่อย่าตื่นตระหนก และในอดีตไทยก็เคยผ่านวิกฤติแบบนี้มาแล้วก็ยังผ่านมาได้”

คอลัมน์   พื้นที่นี้....Exclusive

โดย:งามตา สืบเชื้อวงค์