‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ปักหมุดดาต้า เซ็นเตอร์ นำร่องเฟสแรก ไตรมาส 2/68
“เซ็นทรัลพัฒนา” ร่วมทุน Evolution Data Centres ตั้งบริษัท “อีโวลูชั่น ดีซี (ไทยแลนด์)” จับมือ International Gateway พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายขั้นสูง ขณะที่ไตรมาส 1 กวาดรายได้ 1.22 หมื่นล้าน เติบโต 19% กำไรสุทธิ 4,154 ล้าน เติบโต 28%
นายภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Alternative Investments บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า บริษัทร่วมมือกับบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกตเวย์ (IGC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศไทยและเครือข่ายในระดับภูมิภาค
ในการเสริมศักยภาพของโครงการ Data Centre “อีโวลูชั่น ดีซี (ไทยแลนด์)” และสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่งให้กับ Digital Ecosystem ในประเทศไทย อีกทั้งยังส่งผลให้หลายธุรกิจไทยสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่ AI เติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยบริษัท อีโวลูชั่น ดีซี (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเซ็นทรัลพัฒนากับบริษัท Evolution Data Centres ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อพัฒนาธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดมากกว่า 30 เมกะวัตต์ โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อมุ่งหวังสร้างความพร้อมให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็น ASEAN DIGITAL HUB ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ Data Centre บน Strategic Location ย่านบางนา คาดว่าจะก่อสร้างเฟสแรกแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2568
สำหรับผลประกอบการของเซ็นทรัลพัฒนา ในไตรมาส 1 ปี 2567 พบว่า ทำรายได้รวม 12,234 ล้านบาท เติบโต 19% และกำไรสุทธิ 4,154 ล้านบาท เติบโต 28% จากปีก่อน
ด้านนางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชีและบริหารความเสี่ยง บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า การบริโภคภาคเอกชนของไทยถูกขับเคลื่อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น โครงการ Easy E-Receipt อีกทั้ง การดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจแบบผสม (Mixed-use Development) ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 2567มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทุกๆ กลุ่มธุรกิจ
สำหรับแผนระยะยาวในการลงทุน นับจากปี 2567-2571 บริษัทจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1.21 แสนล้านบาท และในปี 2567 นี้ จะมีโครงการที่เปิดให้บริการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ อาทิ เซ็นทรัล นครสวรรค์, เซ็นทรัล นครปฐม, โครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการ และโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยอง ซึ่งจับมือกับ International Chain ระดับโลก
นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์ “The World’s New Magnitude” ขยายย่านการค้าและธุรกิจในกรุงเทพฯ อีกหลายมุมเมือง เหมือนโมเดลเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสจำนวน 5 โครงการ มีพื้นที่ทุกโครงการรวมกันกว่า 2.2 ล้าน ตร.ม. รวมถึง “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก โดยพร้อมเปิดส่วนอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า Central Park ในปีหน้า 2568
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,992 วันที่ 16 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567