"เซ็นทรัลพัฒนา" ปลื้มไตรมาส 1 ทำรายได้ 1.2 หมื่นล้าน

14 พ.ค. 2567 | 19:25 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ค. 2567 | 19:27 น.

"เซ็นทรัลพัฒนา" เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ทำรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 4,154 ล้านบาท ชูความสำเร็จโครงการมิกซ์ยูสเซ็นทรัล นครสวรรค์-เซ็นทรัล นครปฐม พร้อมโมเดลธุรกิจ The Ecosystem For All

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชีและบริหารความเสี่ยงบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญในทุกๆ กลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่พักอาศัยที่มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2566

โดยไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีรายได้รวม 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 19% และกำไรสุทธิ 4,154 ล้านบาท เติบโต 28% จากปี 2566 จากการบริโภคภาคเอกชนของไทยถูกขับเคลื่อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา และมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น โครงการ Easy E-Receipt อีกทั้ง ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคมีแน้วโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ และความชัดเจนในมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ยิ่งไปกว่านั้นการดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจแบบผสม (Mixed-use Development) ก็ยังเป็นจุดแข็งของบริษัท

"ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการศูนย์การค้าต่างจังหวัด 2 แห่ง คือ เซ็นทรัล นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 31 มกราคม และเซ็นทรัล นครปฐม เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ภายในโครงการได้รับการออกแบบที่ผสมผสานกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมด้วยร้านค้าชั้นนำที่ครบครันในการตอบโจทย์ทุกกิจกรรม พร้อมทั้งได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเอสเซ็นท์ นครสวรรค์ และนครปฐม ในวันเดียวกับการเปิดตัวศูนย์การค้าด้วย ทำให้ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาการจองซื้อของทั้ง 2 โครงการ ได้รับการตอบรับดี นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวโครงการบ้านนิรดา วงแหวน-เอกชัย ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอีก"

\"เซ็นทรัลพัฒนา\" ปลื้มไตรมาส 1 ทำรายได้ 1.2 หมื่นล้าน
  
นางสาวนภารัตน์ กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนายังได้วางแผนระยะยาวในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในแผน 5 ปีตั้งแต่ปี 2567-2571 วางแผนลงทุนทั้งสิ้น 1.21 แสนล้านบาท และในปี 2567 นี้ จะมีโครงการที่เปิดให้บริการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม ซึ่งดำเนินการเปิดทำการเรียบร้อยแล้ว โครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการ และโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยอง ซึ่งจับมือกับ International Chain ระดับโลก พร้อมทั้งเตรียมสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก “The World’s New Magnitude” ขยายย่านการค้าและธุรกิจในกรุงเทพฯ อีกหลายมุมเมือง เหมือนโมเดลเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสจำนวน 5 โครงการ มีพื้นที่ทุกโครงการรวมกันกว่า 2.2 ล้าน ตร.ม. 

ทั้งหมดนี้ อยู่บน Super Prime Locations รอบกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนถนนใหญ่ และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า แต่ละโครงการจะเป็น Flagship ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในอนาคต และจะเป็น Landmark ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เตรียมพบกับโครงการแรกคือ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก โดยพร้อมเปิดส่วนอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า Central Park ในปีหน้า 2568

เซ็นทรัลพัฒนาติดยังอันดับเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีโลก (DJSI World) ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 และเป็นสมาชิกของ S&P Global Sustainability Yearbook ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 สะท้อนวิสัยทัศน์ Imagining better futures for all และโมเดลธุรกิจแข็งแกร่งเป็น The Ecosystem for All ดำเนินธุรกิจในบทบาท ‘Place Maker’ ผู้พัฒนาพื้นที่ที่มากกว่าศูนย์การค้า ยกระดับคุณภาพชีวิต ดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน 

\"เซ็นทรัลพัฒนา\" ปลื้มไตรมาส 1 ทำรายได้ 1.2 หมื่นล้าน

โดยได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) สูงสุดเป็นอันดับ 1 ระดับโลก ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Management & Development) จากการประกาศผล Sustainability Yearbook 2024 โดย S&P Global 

นอกจากนี้ ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 กองทรัสต์ CPNREIT ประสบความสำเร็จในเพิ่มทุนและต่อสัญญาโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ตามแผนเรียบร้อยแล้ว โดย CPNREIT ได้ออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนทั้งหมด 1,053 ล้านหน่วย ที่ราคาเสนอขายสุดท้าย 10.20 บาท ให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม และประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 23-29 เมษายน 2567 ได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จตามที่คาดการณ์ไว้ และได้รับเงินเพิ่มทุนทั้งสิ้น 10,741 ล้านบาท รวมกับเงินกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินอีกบางส่วน นำไปลงทุนต่อสัญญาสิทธิการเช่าโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า อีก 15 ปี มูลค่าทั้งสิ้น 12,161 ล้านบาท เรียบร้อยแล้วในวันที่ 8 พฤษภาคม 2567  

สำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 เซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 42 โครงการ (ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 42 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 16 โครงการ ต่างจังหวัด 23 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ, ศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกา บางนา ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 35 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 9 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 36 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT  VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN  (ทาวน์โฮม) ESCENT AVENUE (โฮมออฟฟิศ) NINYA (บ้านแฝด) NIYAM (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการแนวราบหลากหลายรูปแบบภายใต้แบรนด์ NIRATI และ BAAN NIRATI