เปิดเส้นทาง “วอริกซ์” พิชิตหมื่นล้าน กับภาพใหม่ที่เป็นมากกว่า "สปอร์ต"

05 พ.ย. 2566 | 10:40 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2566 | 10:47 น.

เปิดแนวรบ “วอริกซ์” รีแบรนด์สู่ Sport Active Health Lifestyle เดินหน้าขึ้นผู้นำสปอร์ต-ไลฟ์สไตล์อาเซียน จ่อแตกไลน์รุกเสื้อผ้าทีเชิ้ต รองเท้า ฯลฯ ตั้งเป้าโกยยอดขายทะลุหมื่นล้านในอีก 10 ปีข้างหน้า

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วอริกซ์พร้อมเดินหน้าธุรกิจสู่ Sport Active Health Lifestyle ครบวงจร เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทุกเจนเนอเรชั่น ทั้งชุดกีฬา อาทิ ฟุตบอล บาสเก็ตบอล กอล์ฟ วิ่ง ธุรกิจด้านสุขภาพ

ประกอบด้วย Warrix Run Hub ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาศักยภาพนักกีฬาและผู้ชอบการออกกำลังกาย Warrix Health คลินิกกายภาพบำบัด และ Performance training ตลอดจนสินค้าและบริการกลุ่มไลฟ์สไตล์ รวมถึง “Warrix Lifestyle” Lifestyle community ซึ่งเปิดตัวที่สยามสแควร์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

โดยในปีหน้า บริษัทางเป้าหมายที่จะเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด (Unlimited Growth) โดยโฟกัสใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1. การสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์วอริกซ์ 2. การลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ 3. การบริหารสินค้า และ 4 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยการใช้อินโนเวชั่น โดยมีเป้าหมายผลักดันให้ “วอริกซ์” เป็นแบรนด์ลีดเดอร์ในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้โมเดลจากไทยที่ประสบความสำเร็จ ส่งต่อไปที่สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนามและประเทศอื่นๆ ในอนาคต

เปิดเส้นทาง “วอริกซ์” พิชิตหมื่นล้าน กับภาพใหม่ที่เป็นมากกว่า \"สปอร์ต\"

“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาวอริกซ์ ก้าวเข้ามาในตลาดเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Warrior” หรือนักรบที่แสดงถึงชัยชนะ แข็งแรง ดุดันและเป็นสุภาพบุรุษ ด้วยกลยุทธ์ Local Marketing เป็นสปอนเซอร์ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้ากีฬาให้กับนักฟุตบอลทีมสโมสรตามต่างจังหวัดทั่วทุกภูมิภาค และเป็นผู้สนับสนุนสถาบันการศึกษาต่างๆ

อาทิ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โรงเรียนอัสสัมชัญ ฯลฯ และ License Marketing โดยคว้าลิขสิทธิ์ผลิตชุดแข่งขันให้กับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2560 และถือลิขสิทธิ์ต่อจนถึงปี 2571 จนสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับเสื้อนักกีฬาทีมชาติไทย และส่งต่อคุณค่าแบรนด์ Warrix ไปยังกลุ่มแฟนกีฬาชาวไทย”

จากจุดเริ่มต้นที่มีรายได้หลักสิบล้านบาท วันนี้ “วอริกซ์” ตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ทะลุหมื่นล้านบาทในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งแผนการณ์เดินหน้าคือการขยายธุรกิจครอบคลุมทั้งธุรกิจไลเซนส์และนอนไลเซนส์

“ในปีหน้าวอริกซ์จะรีแบรนด์สู่ Sport Active Health Lifestyle พร้อมเดินหน้าสู่ผู้นำแบรนด์สินค้ากีฬาและไลฟ์สไตล์ของอาเซียน”

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล

นั่นหมายความว่า จะมีสินค้าที่หลากหลายไม่ใช่แค่ชุดกีฬา ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่า “วอริกซ์” มีรองเท้ากีฬา ซึ่งแม้จะมีคอลเลคชั่นให้เลือกจำกัด แต่แต่ละคอลเลคชั่นที่ออกมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับกับสรีระของคนไทย รวมถึงนวัตกรรมที่ทำให้ใส่สบาย จึงได้รับความนิยมจากกลุ่มนักกีฬาและสตรีทแวร์

นอกจากนี้ในปีหน้าจะเห็นเสื้อทีเชิ้ต ซึ่งผลิตออกมารองรับกลุ่มลูกค้าประจำของวอริกซ์ ทั้งกลุ่มสินค้าไลเซนส์และนอนไลเซนส์ที่พบว่า มีทั้งลูกค้าทั่วไป และลูกค้าองค์กร เช่นหน่วยงานรัฐ โรงเรียน รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน ซึ่งเราผลิตยูนิฟอร์มให้กับองค์กรต่างๆ จำนวนมาก เป็นต้น รวมทั้งการขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

เปิดเส้นทาง “วอริกซ์” พิชิตหมื่นล้าน กับภาพใหม่ที่เป็นมากกว่า \"สปอร์ต\"

เช่น การจับมือกับเอาท์เล็ท มอลล์ ผู้บริหารโครงการ “พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท” สร้าง Specialty Store เพื่อลูกค้าเข้าถึงสินค้าทีมชาติไทย ผ่านสาขาของเอาท์เล็ทตามหัวเมืองต่างๆ ขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มเดิมกระจายออกสู่หัวเมืองท่องเที่ยว และมุ่งสู่การเป็น HUB กระจายสินค้าอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันเปิดแล้ว 3 สาขาได้แก่ พัทยา, อยุธยา และโคราช และมีแผนจะขยายสาขาให้ได้ 8 แห่ง ภายในปีหน้า ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ

“วอริกซ์ พร้อมทดลองสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา เช่นการจับมือกับบริษัท ขนส่งฯ โปรโมตแบรนด์ และสินค้าของวอริกซ์ บนรถ บขส. สายเหนือผ่านจอที่นั่งส่วนตัว ซึ่งมองว่าช่วงดังกล่าวมีจำนวนทราฟฟิกผู้โดยสารมากนับหมื่นคนต่อวัน จะโฆษณาบนรถให้ผู้โดยสาร หากสนใจสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อสั่งซื้อและชำระเงินได้ โดยอาจจะรับสินค้าที่จุดหมายปลายทางได้เลย ก็เป็นอีกช่องทางในการสร้างแบรนด์และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า”

เปิดเส้นทาง “วอริกซ์” พิชิตหมื่นล้าน กับภาพใหม่ที่เป็นมากกว่า \"สปอร์ต\"

ล่าสุดหลังการเข้าซื้อกิจการ Premier Football ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์แบรนด์ Adidas และเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาอันดับ 2 ในสิงคโปร์อยู่มายาวกว่า 17 ปี ด้วยเม็ดเงินราว 20 ล้านบาท เพื่อขยายสู่ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งในสิงคโปร์นั้น เชื่อว่าจะมาต่อยอดแบรนด์วอริกซ์ให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น โดยที่นี่จะเป็นแฟลกชิพของวอริกซ์ต่อไปในอนาคต

นายวิศัลย์ กล่าวอีกว่า บริษัทพร้อมขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งล่าสุดเข้าไปสนับสนุนเป็นพาร์ทเนอร์ในสโมสรฟุตบอลหลายแห่งและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทมีแผนหาตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ รวมทั้งการขยายสปอร์ตไลเซนส์ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์เช่นเดียวกับโมเดลในประเทศไทย

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,937 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566