“วอริกซ์” คึกเทคโอเวอร์ร้านค้าปลีกแบรนด์ดัง ดีลเลอร์ “อาดิดาส” ในสิงคโปร์

02 ก.พ. 2566 | 17:20 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2566 | 17:24 น.
571

WARRIX ควัก 30 ล้านเทคโอเวอร์ “Premier Football” ร้านขายสินค้ากีฬา ตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ Adidas ในสิงคโปร์ เสริมพอร์ต Sport – Health & Lifestyle

หลัง “วอริกซ์ สปอร์ต” ประกาศขยายพอร์ตธุรกิจ Sport – Health & Lifestyle แบบครบวงจร เพื่อต่อยอดธุรกิจจากจุดแข็งในการเป็นผู้นำตลาดสินค้ากีฬา ด้วยโมเดลธุรกิจสปอร์ตไลเซนซิ่ง (Sport Licensing) การมีแบรนด์สินค้าคุณภาพสูงซึ่งเป็นที่รู้จักและไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้า โดยเตรียมพร้อมยกระดับการขยายธุรกิจไปอีกขั้น เพื่อเป้าหมายการพาแบรนด์ไทยให้เติบโตสู่ตลาดโลก ล่าสุดประกาศเทคโอเวอร์ร้านค้าปลีกเสื้อผ้ากีฬาและอุปกรณ์ดังในสิงคโปร์

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX เปิดเผยว่า WARRIX เข้าซื้อกิจการ Premier Football ผู้เชี่ยวชาญการขายสินค้าฟุตบอล และเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์แบรนด์ Adidas ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาอันดับ 2 ในสิงคโปร์  ด้วยมูลค่ารวม 800,000 (SGD) หรือ 20 ล้านบาท

พร้อมขยายสู่ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งในสิงคโปร์ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า พร้อมวางงบลงทุนในบริษัทย่อยเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนอีกราว 10 ล้านบาท เสริมสร้างความแข็งแกร่งการดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร เพิ่มโอกาสขยายตลาดทั่วโลก คาดสนับสนุนรายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 80 ล้านบาท

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล

โดยคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทมีมติอนุมัติเพิ่มทุนในบริษัทย่อย คือบริษัท WARRIX Holding PTE. LTD. (Singapore) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ WARRIX ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนขยายธุรกิจในต่างประเทศ เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท Premier Football ในประเทศสิงคโปร์ ด้วยมูลค่ารวมทั้งหมด 800,000 เหรียญดอลล่าร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการเข้าทำรายการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 1/2566 และจะช่วยสนับสนุนให้รายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 80 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทได้วางเงินลงทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการอีกไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท WARRIX พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งในประเทศสิงคโปร์ ผ่านการนำสินค้าของบริษัทฯ เข้าไปจำหน่ายร่วมกับสินค้าลิขสิทธิ์จากสโมสรฟุตบอลชั้นนำของโลก ถือเป็นการเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสขยายตลาดต่างประเทศไปทั่วโลก

สำหรับ Premier Football ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล อาทิ เสื้อแข่งฟุตบอลทีมชาติและทีมสโมสร และมีการให้บริการออกแบบ และให้บริการรีดชื่อ เบอร์ และตราสัญลักษณ์ต่างๆ บนเสื้อ (ทั่วไปเรียกว่า Flex) รวมถึงจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา สินค้าที่ระลึกสำหรับกีฬาฟุตบอลทั่วไป

“วอริกซ์” คึกเทคโอเวอร์ร้านค้าปลีกแบรนด์ดัง ดีลเลอร์ “อาดิดาส” ในสิงคโปร์

ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเภท ได้แก่ 1. การค้าปลีก โดยมี Flagship Store ที่ตึก Suntec City 2. การค้าปลีกออนไลน์ ผ่านช่องทาง Website Lazada และ Shopee และ 3. การค้าส่ง ผ่าน Corporate Sale ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ Premier Football เป็นที่รู้จักในฐานะร้านที่จำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาอันดับ 2 ของประเทศสิงคโปร์ และยังเป็น 1 ใน 2 ร้านตัวแทนจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์แบรนด์ Adidas ในประเทศสิงคโปร์

“ธุรกิจ Premier เป็นที่รู้จักในเรื่องของการให้บริการออกแบบและรีดชื่อและเบอร์ (Flex) โดยมี range ของสินค้า และสต๊อกของสินค้า โดยเฉพาะสินค้า adidas ที่มีมากที่สุด ซึ่งตอบโจทย์ทางการตลาดสำหรับผู้ที่เล่นกีฬาฟุตบอล หรือชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ในประเทศสิงคโปร์ อีกทั้งกลุ่มลูกค้าของ Premier Football ส่วนใหญ่เป็นแฟนฟุตบอลที่ติดตามสโมสรฟุตบอลในประเทศอังกฤษ สเปน และอิตาลี ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับสากล ทำให้กลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน จะมีทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาซื้อสินค้าที่ store และกลุ่มคนท้องถิ่น”

นายวิศัลย์ กล่าวอีกว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ เป็นการเข้าซื้อทั้งหมด 100% ทำให้บริษัทได้รับสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าพร้อมประวัติความเป็นมาของ Premier Football ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการบริหารการขายสินค้าที่ยาวนานตลอดระยะเวลา 17 ปี รวมถึงการได้รับสิทธิสัญญาเช่าพื้นที่ Shop ที่อาคาร Suntec City โดยจะเป็นสัญญาเช่าต่อเนื่องจากเจ้าของเดิม มีพื้นที่ถึง 1,565 ตารางฟุต นอกจากนี้ ยังได้รับช่องทางการจำหน่ายสินค้าบนโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น E-commerce Website: online marketplace Lazada Shopee รวมถึง Social media เช่น Instagram เป็นต้น  

“บริษัทได้รับสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ ฐานข้อมูลลูกค้าทั้งค้าปลีกและค้าส่งทั้งในประเทศสิงคโปร์ และต่างประเทศ เป็นการต่อยอดและสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับบริษัทในอนาคต ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร อีกทั้งสามารถขยายศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจไปยังตลาดที่มีความน่าสนใจในภูมิภาคอาเซียน และทวีปยุโรป”