บิ๊กเนมชิงยอด ‘ช้อปดีมีคืน’ ห่วงหนี้ครัวเรือน-ดอกเบี้ยขาขึ้น ฉุดกำลังซื้อ

22 ม.ค. 2566 | 11:50 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ม.ค. 2566 | 12:16 น.

แบรนด์ดังจัดทัพสินค้าชิงยอดขาย “ช้อปดีมีคืน” ทั้งกลุ่มแฟชั่นเสื้อผ้า กิ๊ฟช้อป เครื่องใช้ไฟฟ้า ยันอาหารเสริม ชี้ปัจจัยเสริมมีทั้งเทศกาลวันเด็ก ตรุษจีน วาเลนไทน์ หวั่นปัจจัยลบทั้งหนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ยขาขึ้นฉุดกำลังซื้อทรุด

"ช้อปดีมีคืน” มาตรการ ช้อปลดหย่อนภาษีเงินได้ ซึ่งเริ่มคิกออฟตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี เห็นได้จากบรรยากาศในช่วงสัปดาห์แรก ทำให้หลายบริษัทชั้นนำเริ่มนำสินค้าและบริการออกมาจำหน่าย พร้อมจัดโปรโมชั่นดึงดูด หวังได้อานิสงส์ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ที่ผ่านมา วอริกซ์ เข้าร่วมโครงการ ช้อปดีมีคืน แต่ไม่ได้จริงจังมากนัก แต่ในปีนี้วอริกซ์ จะเข้าร่วมอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มดีมานด์ที่จะเข้ามาซื้อสินค้าใหม่อีก 5% ภายใน 45 วันที่ร่วมแคมเปญ

โดยกลุ่มเป้าหมายของวอริกซ์ คือคนที่มีฐานเงินเดือนอย่างน้อย 2.5 หมื่นบาทขึ้นไปซึ่งฟีดแบ็คตั้งแต่ต้นปีที่เริ่มโครงการนี้ยังไม่ชัดเจนเท่าไร เนื่องจากการสื่อสารไปยังที่คนที่เสียภาษีที่เป็นเป้าหมายของวอริกซ์ยังไม่มากพอ แต่ล่าสุดวอริกซ์กำลังจะทำเครื่องมือทางการตลาดเพื่อนำไปติดตามห้างและจุดขายรวมทั้งออนไลน์เพิ่มขึ้นโดยใช้งบการตลาดสำหรับแคมเปญนี้ไม่มากเพียง 0.5% เท่านั้น

“สำหรับกำลังซื้อเราเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของ ช้อปดีมีคืน คือคนที่มีรายได้ระดับหนึ่งหรือเกิน 2.5 หมื่นบาทขึ้นไปถึงหลักล้านบาท เป็นคนที่มีความเข้าใจเรื่องการเสียภาษีระดับหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่ากว่า 80% โดนภาระหนี้ครัวเรือนหรือหนี้บัตรเครดิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ผ่อนบ้านจะมีดอกเบี้ยที่กำลังจะสูงขึ้นแบบหนักมากๆ เพราะฉะนั้นกำลังซื้อของเขาจะถูกดูดด้วยการขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้นคิดว่าโครงการช้อปดีมีคืนปีนี้ น่าจะสู้ปีที่ผ่านๆมาไม่ได้เนื่องจากถูกตัดแบ่งไปจากภาระหนี้ครัวเรือนและภาระดอกเบี้ยที่ขึ้นทั้งกระดาน”

 

ด้านนายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI กล่าวว่า มองว่าธุรกิจค้าปลีกทั้งหมดได้รับอานิสงส์จากโครงการช้อปดีมีคืนถ้วนหน้า เพราะลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและนำไปลดหย่อนภาษีได้ ขณะที่โมชิฯ เอง แม้จะเป็นธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์ ขายของชิ้นเล็กๆ แต่ก็เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนยอดขายต่อสาขาได้เป็นอย่างดี

บิ๊กเนมชิงยอด ‘ช้อปดีมีคืน’ ห่วงหนี้ครัวเรือน-ดอกเบี้ยขาขึ้น ฉุดกำลังซื้อ

นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีเทศกาลต่างๆ ต่อเนื่อง ทั้งเทศกาลวันเด็ก และเทศกาลวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นเทศกาลหลักที่ช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทโดยร้าน Moshi Moshi มีสินค้าในกลุ่มวันเด็ก อาทิ ของเล่น เครื่องเขียน เป็นต้น ซึ่งมีลูกค้าทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชน ที่ซื้อสินค้าไปแจกในกิจกรรมวันเด็กในปริมาณมาก รวมถึงลูกค้าทั่วไป นอกจากนี้เทศกาลวาเลนไทน์ ก็จะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อยอดขายของบริษัทเช่นกัน โดยโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลต่างๆ สินค้าทั้งหมดในร้าน Moshi Moshi สามารถออกใบกำกับภาษี และนำมาลดหย่อนได้ทั้งหมด

ขณะที่นางสาวระพีภัทร ปลื้มพิทักษ์กุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เชียงใหม่สยามทีวี จำกัด ผู้บริหาร “สยามทีวี ดิจิตอลสโตร์” ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที มือถือ แก็ดเจ็ตและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 ที่รัฐบาลออกมาช่วงนี้บรรยากาศยังไม่คึกคักมากนักเนื่องจากเป็นช่วงหลังปีใหม่

ขณะที่ลูกค้าบางรายมีความประสงค์ที่จะซื้อสินค้า เนื่องจากเป็นสินค้ามีมูลค่าสูง สามารถใช้จ่ายได้เต็มอัตราคืนภาษีได้ง่ายและรวดเร็วกว่าสินค้าประเภทอื่นๆ ถือเป็นปัจจัยบวกในการกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ

 

“สยามทีวีเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของแคชเชียร์ เพื่อรองรับการออกบิลกำกับภาษีเพิ่ม 20% ไว้ ออกบิลได้รวดเร็วภายใน 1 นาที โดยคาดหวังว่าจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้น 20% จากแคมเปญ คาดว่าจะขายดีมากในช่วงท้ายของแคมเปญในระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ.”

ทั้งนี้สยามทีวีจัดงาน สยามทีวี Big Bonus Big Sale ลดใหญ่ ต้อนรับปีใหม่ วันที่ 1-31 ม.ค. 66 พร้อมเชิญชวนให้ลูกค้าเข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืน ซึ่งสามารถซื้อสินค้าและนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 10,500 บาทลดสูงสุด 70% ซื้อชิ้นที่ 2 และลดเพิ่มทั้งร้านสูงสุด 20% ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้ทุกสาขา รวมถึงช่องทางสยามทีวีออนไลน์ ก็ออกใบกำกับภาษีให้ได้เช่นกัน

ด้านนายอาทิตย์ ปลื้มพิทักษ์กุล ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า สำหรับเทรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้ เป็นเรื่องของความสะดวกสบายกับผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ สินค้า IOT เชื่อมต่อ Wifi ซึ่งสินค้า IOT ได้ยินมา 2-3 ปีแล้ว แต่ว่าถ้าลูกค้าที่ยังไม่ได้มาเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ เขาก็ยังไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ แต่ถ้าเขามาเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบใหม่ๆจะเป็น IOT หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เชื่อมต่อ Wifi ได้ เครื่องซักผ้า เชื่อมต่อ Wifi ได้ แอร์สั่งงานด้วยเสียงได้ เชื่อมต่อ Wifi ได้ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าที่ต้องการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่จะให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก

“เทรนด์ในปีนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าจะเน้น Wifi มากขึ้น แบรนด์ผู้ผลิตก็จะนำสินค้าที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น อีกเทรนด์หนึ่งคือเทรนด์เรื่องของการตกแต่งบ้านที่จะทำให้แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าดีไซน์สินค้าสามารถจัดโชว์ได้ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นที่เปลี่ยนสีประตูได้ หรือตู้เย็นที่มีสีสันหวานๆแปลกใหม่

ในเรื่องของการจับจ่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเป็นออนไลน์มากขึ้น ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด เป็นตัวเร่งทำให้ผู้บริโภคซื้อของออนไลน์เป็น และคุ้นชินกับการซื้อของออนไลน์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย ดังนั้นการที่จะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า แน่นอนเขาก็จะมาเลือกดูสินค้าทางอินเตอร์เน็ต และก็จะมีความมั่นใจในการซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าออนไลน์มากขึ้น

เช่นเดียวกับนายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER กล่าวว่า ซิงเกอร์นำสินค้ากว่า 100 รายการ จากสินค้าจำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จักรเย็บผ้าและอุปกรณ์จักร และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ มาวางจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อและนำไปลดหย่อนภาษีได้

ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้นที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการช้อปดีมีคืน พบว่าสินค้าและบริการแบรนด์ดังจำนวนมาก นำสินค้าคอลเลคชั่นต่างๆมาวางจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อและนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่ว่าจะเป็น “ยูบิลลี่” ที่นำเครื่องประดับเพชรเข้าร่วมโครงการในกว่า 130 สาขาทั่วประเทศ, โฮมโปร จัดโปรโมชั่นนำสินค้าวางจำหน่ายพร้อมส่วนลดเพิ่มสูงสุด 5,000 บาท รับสิทธิผ่อนชำระ 0% ทั้งร้าน นานสูงสุด 12 เดือน,ซัคเซสมอร์กับสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารเสริม รวมถึงสินค้าอื่นๆ กว่า 70 รายการ เป็นต้น

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,852 วันที่ 12 - 14 มกราคม พ.ศ. 2566