วอริกซ์ แนะ SMEs ไทยจับกระแสโกลบอล เทรนด์

15 ก.พ. 2566 | 17:29 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.พ. 2566 | 17:50 น.

วอริกซ์ แนะแนวทาง SMEs ไทย ต้องจับกระแสโกลบอล เทรนด์ เชื่อในทุกตลาดมีช่องว่างให้รุก พร้อมนำเสนอรัฐฯช่วยลงทุนด้านวิจัย หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยลืมตาอ้าปาก

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 สื่อในเครือเนชั่น กรุ๊ป จัดงานเสวนา ในหัวข้อ “อนาคตประเทศไทย : SME จะไปทางไหน?” ซึ่งภายในงานดังกล่าว เปิดเวทีระดมสมอง  โดยมีเอสเอ็มอีดาวเด่น รวมถึงผู้ประกอบการ หน่วยงานสนับสนุนมาร่วมถก และหนึ่งในหัวข้อที่มีการพูดคุยกันในวันนี้คือ "เอสเอ็มอี ยุคใหม่ .. เดินอย่างไร ให้ยั่งยืน"

 

นาย วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แบรนด์เสื้อผ้ากีฬา "วอริกซ์" เติบโตมาจากศูนย์ และปัจจุบันได้เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สำหรับการทำธุรกิจของแบรนด์"วอริกซ์" นั้น กีฬาถือเป็นโกลบอล เทรนด์ ดังนั้นเอสเอ็มอีที่คิดว่าจะเติบโตอย่างยั่งยืนหรือไปต่อได้ ต้องจับกระแสโกลบอล เทรนด์นี้ให้ได้ นอกจากนั้นแล้วยังต้องมองหาช่องว่างการตลาด 

 

ขณะเดียวกันต้องการให้ภาครัฐฯช่วยสนับสนุนลงทุนหน่วยงานวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะกลายเป็นเสาเข็มเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทย เพราะปัจจุบันหากจะให้เอสเอ็มอี ลงทุนเพื่อรีเสริช นั้นจะต้องใช้เม็ดเงินหลายล้านบาท ดังนั้นหากรัฐบาลมาช่วยดูตรงจุดนี้ก็จะช่วยให้มองเห็นช่องว่างและโอกาสทางการตลาดที่จะเจาะเข้าไปรุกตลาดนั้นได้
 

"สิ่งที่เราโต เราโตจากการมองภาพ มองช่องว่างทางการตลาด และเราเชื่อว่าทุกตลาดมีช่องว่าง ยกตัวอย่าง เราเริ่มจากช่องว่างแบรนด์ไทย และแบรนด์นอก โดยสินค้าแบรนด์ไทย ราคาต่ำ 300 บาท ส่วนแบรนด์นอกขายราคาเกิน 1,000 บาท ทำอย่างไรให้แบรนด์ของเราขายอยู่ในราคา 300 วิ่งไปสู่ 700 -1,000 บาท นั่นคือสิ่งที่วอริกซ์ โตจาก 0 จนมาถึงพันล้านในช่วง 9 ปี" 

นาย วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน)

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เอสเอ็มอี ต้องประสบปัญหา นั่นก็คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยสถาบันการเงินมีการปล่อยสินเชื่อแต่ไม่มาก ซึ่งกรณีที่หมุนเงินไม่ทัน ก็ต้องพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยที่ต้องเสีย ตรงจุดนี้ถือเป็นพิษกับการเติบโตในธุรกิจเอสเอ็มอี

 

นาย วิศัลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากขอเสนอให้กับภาครัฐฯในการช่วยเหลือเอสเอ็มอี โดยประกอบไปด้วย SME National Scoring จะช่วยให้งบของรัฐถูกใช้กับผู้ประกอบการที่แข็งแรงและอยู่รอด ยกตัวอย่าง ผู้ที่เสียภาษีดี ภาษีขาวให้กับสังคม ควรมีสกอริ่งที่ดี รัฐอาจจะให้แบงก์มอบรีวอร์ดกับกลุ่มนี้ อาทิ ดอกเบี้ย 0 % ให้กับผู้ที่ได้สกอริ่งที่ดี (เหมือนนักเรียนที่เรียนดีแล้วให้ทุนการศึกษา)

นอกจากนั้นแล้ว รัฐควรเปิดเสรีทางการเงิน เพื่อให้เอสเอ็มอี มีโอกาสลืมตาอ้าปาก และอีกหนึ่งข้อ แบงก์ไม่ให้กู้เรื่องการพัฒนาเกี่ยวกับซอร์ฟแวร์  โดยสรุปสิ่งที่เป็น Pain Point ของเอสเอ็มอี ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนลำบาก ,ต้นทุนทางการเงินสูง และ การลงทุนในสิ่งควรลงทุน แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้

"โลกเปลี่ยนไว ถ้าไม่ติดปีกให้กับเอสเอ็มอีไทย มันก็จะเกิดช่องว่างระหว่างสังคมไซส์ใหญ่ ไซส์เล็ก คนจน คนรวย"

นาย วิศัลย์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระแสของโลกออนไลน์ว่าจะกระทบกับเอสเอ็มอีหรือไม่ โดยระบุว่า  โลกออนไลน์ในไทยมีโอกาสเติบโตมหาศาล ในส่วนของวอริกซ์ มีการลงทุนในออนไลน์ต่อเนื่อง และถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ต้นทุนน้อยแต่ก็ต้องรู้จักปรับใช้องค์ความรู้ เครื่องมือต่างๆในโลกออนไลน์ที่เปลี่ยนไปในทุกวัน

"เราไม่ได้ขยายสาขาเยอะ แต่จะลงทุนออนไลน์มากกว่าออฟไลน์  ซึ่งออนไลน์มันเป็นการมองอนาคต แต่หากเรายังมองแบบ old school มันจะเป็นการฆ่าตัวตาย"

นาย วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน)