มาแล้ว....รัฐบาลจีนเริ่มรุกกลับ

03 ก.พ. 2568 | 06:00 น.

มาแล้ว....รัฐบาลจีนเริ่มรุกกลับ คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

หลังจากเกิดเหตุปรากฎการณ์ของหวาง ซิง หรือ ซิง ซิง ผมได้เขียนถึงที่มาที่ไปของปรากฎการณ์ไปทั้งหมด 3 ตอน ก็คิดว่าคงจะต้องจบเรื่องราวได้แล้ว และแล้วในปลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงความมั่นคง เดินทางมายังประเทศไทย จากนั้นในคืนวันต่อมา พี่น้องที่อยู่ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยเฉพาะฝั่งตรงข้ามกับเมืองชเว โก๊ก กู่ ก็ได้ยินเสียงปืนดังไม่ขาดสาย ซึ่งในขณะที่ผมเขียนต้นฉบับอยู่นี้ก็ยังไม่มีรายงานว่า เหตุการณ์ปะทะกันในฝั่งของเมืองกาสิโนนั้นเกิดจากอะไร? คิดว่าคงต้องรอดูเหตุการณ์กันต่อไปครับ

อย่างที่ผมเคยเขียนเล่าแล้วว่า ในการปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพหรือผู้กระทำผิดกฎหมายอาชญากรรมทางเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่ฝั่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน รัฐบาลจีนเขาได้กระทำการมาโดยตลอดนั้น นับว่าเป็นการปราบปรามที่ได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง โดยทางการของจีนเขาทราบดีว่า ภัยจากการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ได้สร้างผลร้ายให้แก่ประชาชนชาวจีน ที่มีอยู่จำนวนไม่น้อย ที่เป็นกลุ่มชนชั้นกรรมาชีพและเกษตรกร ที่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับการศึกษามากนัก จึงเป็นกลุ่มที่ถูกกระทำหรือได้รับผลจากการกระทำมากที่สุด เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกงออนไลน์ การพนันข้ามพรมแดน หรืออาชญากรรมทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเป็นพลเมืองจีน โดยหนึ่งในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับอาชญากรรมเหล่านี้ คือเขตเศรษฐกิจกาสิโนในเมียนมา ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การหลอกลวงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการพนันที่ผิดกฎหมาย

ในประเทศ เมียนมามีเขตเศรษฐกิจพิเศษหลายแห่ง ที่เปิดให้ดำเนินกิจการกาสิโน ซึ่งรวมถึงพื้นที่อย่างเมืองเลาก๋าย ในรัฐฉาน หรือที่ชเว โก๊ก กู่ และพื้นที่ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง โดยดึงดูดนักลงทุนจากจีนมาพัฒนาโครงการรีสอร์ตกาสิโน อย่างไรก็ตาม บริเวณเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวการพนันเท่านั้น แต่ยังถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่พลเมืองจีน

กลุ่มอาชญากรเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีในการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่ย้ายฐานมาจากกัมพูชา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน โดยเริ่มตั้งแต่ลงทุนในแผนการลงทุนปลอม การพนันออนไลน์ ไปจนถึงการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การแฮ็กข้อมูล การรีดไถเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล รัฐบาลจีนจึงให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหานี้ เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของชาติและความเชื่อมั่นของประชาชน

มาตรการของรัฐบาลจีนในการปราบปราม โดยได้ดำเนินมาตรการหลายประการเพื่อจัดการกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจกาสิโนในเมียนมา โดยมีแนวทางหลักๆ คือทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ ในรูปแบบของข่าวที่มีทั้งข่าวความเลวร้ายของการพนัน ข่าวความรุนแรงในการบังคับด้วยกำลัง เพื่อให้ผู้ที่ถูกหลอกลวงไปสู่ฐานที่มั่นของกลุ่มมิจฉาชีพ

อีกทั้งออกข่าวความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของเจ้าหน้าที่ทั้งฝั่งจีนและเมียนมา รวมไปถึงข่าวการลงโทษผู้ที่กระทำความผิด เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งหลังจากที่เกิดปรากฎการณ์หวาง ซิง การให้ความช่วยเหลือให้หวาง ซิงได้เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดเรียบร้อยแล้ว จากผลของการร้องขอจากกระทรวงต่างประเทศของจีน ผ่านมายังสถานทูตจีนประจำประเทศไทย 

นี่คือหนึ่งในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศของจีนและไทย ในด้านความร่วมมือระหว่างจีนกับเมียนมา เราก็จะเห็นภาพของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน มักจะมีข่าวการเดินทางไปเจรจากับรัฐบาลเมียนมา ในการกวาดล้างกลุ่มอาชญากรที่ใช้พื้นที่ของเมียนมาเป็นฐานปฏิบัติการ นอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว และกัมพูชา เพื่อติดตามเครือข่ายเหล่านี้อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังได้เพิ่มความกดดันด้านเศรษฐกิจ โดยได้ดำเนินมาตรการจำกัดการลงทุนของพลเมืองจีนในธุรกิจกาสิโนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเมียนมาและกัมพูชา ซึ่งนี่คือหนึ่งในมาตรการสำคัญ ที่ช่วยลดอำนาจทางเศรษฐกิจของกลุ่มอาชญากรทางด้านเทคโนโลยี  

นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังเข้มงวดกับการใช้ระบบการชำระเงินออนไลน์ และธุรกรรมทางการเงินข้ามพรมแดน  ที่เกี่ยวข้องกับการพนันผิดกฎหมาย ด้วยการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง และรัฐบาลจีนยังได้ออกกฎหมายควบคุมอาชญากรรมไซเบอร์ ที่เกี่ยวข้องกับการพนันข้ามพรมแดน และมีการเพิ่มโทษแก่ผู้กระทำความผิด ซึ่งช่วยลดโอกาสที่กลุ่มอาชญากร อีกทั้งยังสามารถดำเนินการจากภายในประเทศอย่างเข้มงวด ซึ่งนโยบายที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ได้เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2022 แล้วครับ

อย่างไรก็ตาม การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แม้จะมีมาตรการดังที่กล่าวมาแล้ว แต่เม็ดเงินที่สร้างความมั่งคั่งให้แก่กลุ่มมิจฉาชีพที่ดำเนินการอยู่ ยังคงเป็นแรงจูงใจให้กลุ่มดังกล่าวนี้ ไม่ลดละความพยายามที่จะออกกลอุบายใหม่ๆ มาใช้ในการหลอกลวงผู้ที่ตามไม่ทัน ดังที่เราได้เห็นในปรากฎการณ์ของหวาง ซิง หรือซิง ซิง นั่นเอง ซึ่งต่อมาก็ได้ส่งผู้ช่วยรมต.ฝ่ายความมั่นคงภายใน นำคณะมาเยี่ยมเยือนเราอย่างเงียบๆ โดยสื่อมวลชนของไทยเรา มาเห็นข่าวก็หลังจากที่คณะของท่าน ได้ไปดูพื้นที่ที่อำเภอแม่สอดแล้ว ส่วนรายละเอียด ผมคงไม่ต้องนำเสนออีกนะครับ วันนี้ผมอยากจะแค่นำเสนอว่า หลังจากนี้ต่อไป เราจะเห็นภาพอะไรเกิดขึ้นในพื้นที่แม่สอด-เมืองเมียวดีมากกว่าครับ

ผมเชื่อว่าการมาในครั้งนี้ของผู้นำระดับสูงของฝ่ายความมั่นคงภายในของจีน เราต้องจับตามองกันให้ดี เพราะในช่วงที่ทางการจีนหนุนหลังรัฐบาลเมียนมา ให้เร่งจัดการกับกลุ่มกองกำลังโกก้าง ที่ดูแลพื้นที่อิทธิพลของโกก้าง ณ.เมืองเลาก๋าย ต่อมาก็สั่งปิดพรมแดนในเขตนั้น มิให้ประชาชนชาวเมียนมาไหลทะลักเข้าสู่เขตแดนจีน ด้วยการยิงถล่มข่มขวัญ ทำให้ประชาชนเมียนมา ไม่ไหลไปหลบภัยสงครามในประเทศจีน จากนั้นกองกำลังทหารเมียนมา ก็เปิด “ยุทธการปิดประตูตีแมว” จนเมืองเลาก๋ายถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากอง นี่คือการจัดการขั้นเด็ดขาดของรัฐบาลจีนครับ

หากเราจะคาดการณ์ว่า แล้วจีนจะดำเนินเช่นเดียวกันกับเมืองเมียวดี ชเว โก๊ก กู่ให้เหมือนเมืองเล่าก๋ายหรือไม่? ผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะดำเนินการเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ เราก็ไม่ควรประมาทหรือคิดว่าเขาจะไม่ทำ ผมเชื่อว่าในทางการฑูตของไทยเรา กระทรวงต่างประเทศของเรามีความสามารถพอในการเจรจากับทางการจีน ถึงแนวทางการจัดการเรื่องดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม หากจะมองถึงผลประโยชน์ของเรา ทางรัฐบาลไทยเราหากใช้โอกาสในจังหวะนี้ ในการเร่งรีบประชาสัมพันธ์เรื่องของความปลอดภัย และมาตรการในการให้การดูแลประชาชนชาวจีน ที่มีทั้งนักลงทุน นักเรียนนักศึกษา และนักท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศไทย ก็จะเป็นประโยชน์สูงสุดเลยครับ