หุ้น Tesla ดัน"อีลอน มัสก์" ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก
อานิสงส์จากราคาหุ้นบริษัท เทสลา (Tesla) ที่พุ่งขึ้นกว่า 300% ในปีนี้ ทำให้นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอคนดังวัย 49 ปี กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลกในดัชนี Billionaires Index ของบลูมเบิร์ก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของสหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็น มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก หลัง หุ้นบริษัทเทสลาพุ่งขึ้น กว่า 11% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 ส.ค.) และพุ่งขึ้นกว่า 300% แล้วในปีนี้
การจัดอันดับมหาเศรษฐี Billionaires Index ของบลูมเบิร์ก บ่งชี้ว่า นายอีลอน มัสก์ ขึ้นแท่นบุคคลที่รวยติดอันดับ 4 ของโลกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังหุ้นเทสลาพุ่งแรง ซึ่งทำให้นายมัสก์มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเกือบ 8,000 ล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 84,800 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.65 ล้านล้านบาท
ข่าวระบุว่า เทสลายังคงสามารถทำกำไรได้ในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา แม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยบริษัทสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้มากกว่า 179,000 คันในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งมากกว่ายอดขายของคู่แข่งทุกบริษัทรวมกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อีลอน มัสก์ ขู่โยกสำนักงานใหญ่ออกจากแคลิฟอร์เนีย
ธรรมดาโลกไม่จำ ถอดรหัสชื่อ X Æ A-12 ลูกชายอีลอน มัสก์
Tesla ช่วยให้จีน ครองโลกยานยนต์ไฟฟ้า (1)
Tesla ช่วยให้จีน ครองโลกยานยนต์ไฟฟ้า (2)
ส่วนมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด 3 อันดับแรกของโลกตามการจัดอันดับของสำนักข่าวบลูมเบิร์กนั้น อันดับ1 ได้แก่ นายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทแอมะซอน ตามมาด้วยนายบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟต์ (อันดับสอง) และนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทเฟซบุ๊ก (อันดับสาม)
ข้อมูลอ้างอิง
Elon Musk Gains $8 Billion to Become World’s Fourth-Richest Person