กระทรวงศึกษาฯร่วม Google เปิดหลักสูตร-ประกาศนียบัตรนักเรียนครั้งแรกในโลก

กระทรวงศึกษาธิการ ตอกย้ำความร่วมมือกับ Google for Education เปิดตัว 2 โครงการใหม่เพื่อยกระดับการเรียนรู้และสร้างโอกาสทางการศึกษาในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ โครงการหลักสูตรและประกาศนียบัตรสำหรับนักเรียน โดยนับเป็นที่แรกในโลกที่มีการเปิดตัวหลักสูตรนี้ และโครงการขยายผลการใช้ Chromebook เพื่อโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

บทบาทและความสำคัญในการประกาศขยายผลความร่วมมือใน 2 โครงการระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และ  Google for Education เพื่อยกระด้บการเรียนรู้และสร้างโอกาสทางการศึกษาไทย มีดังนี้

เปิดตัวหลักสูตรและประกาศนียบัตรสำหรับนักเรียนครั้งแรกในโลก

Google เปิดให้มีหลักสูตรสำหรับนักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Google Workspace for Education และ  ChromeOS ผ่านระบบ Massive Open Online Courses (MOOC) ให้นักเรียนได้เรียนรู้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยหลักสูตรนี้ออกแบบด้วยกรณีศึกษาเพื่อให้นักเรียนมีความรู้และสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลของ Google ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด และเมื่อจบหลักสูตรนักเรียนสามารถสอบวัดระดับความรู้เพื่อรับประกาศนียบัตรอีกด้วย

ขยายผลการใช้ Chromebook ในกลุ่มโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษทั่วประเทศ

จากโครงการวิจัยที่ Google for Education ได้ทำร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ณ โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ พบว่า เครื่องมือของ Google เช่น Chromebook และ Google Workspace for Education มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ และสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน

นอกจากนี้ เมื่อเครื่องมือเหล่านี้ถูกนำไปใช้ควบคู่กับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในการพัฒนาทักษะศตวรรษที่ 21 จะช่วยส่งเสริมความคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหา การสื่อสารและการทำงานร่วมกัน ตลอดจนพัฒนาความรู้ด้านไอซีทีของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นการใช้คำบรรยายในวีดีโอที่ทำให้นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสามารถอ่านตามสิ่งที่ครูพูด นอกเหนือจากภาษามือทำให้การเรียนสนุกสนานและกระตุ้นการมีส่วนร่วมมากขึ้น 

กระทรวงศึกษาธิการ และ Google จึงมุ่งมั่นผลักดันการใช้ Chromebook ในการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสนุกสนานในการเรียนรู้ และลดภาระงานของครูผู้สอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายขยายผลไปยังโรงเรียนในกลุ่มดังกล่าวอีก 20 แห่งทั่วประเทศ

โดยโครงการทั้ง 2 ดังกล่าวเป็นการต่อยอดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และ Google เพื่อส่งเสริมนโยบายการศึกษาแบบ “Anywhere Anytime” และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลแห่งชาติ (National Digital Learning Platform)

ความร่วมมือนี้ครอบคลุม 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 

- การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการศีกษาของกระทรวงฯการแบ่งปันความรู้ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ รวมถึงการใช้งานทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ด้านการศึกษาจาก Google และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI  

- การให้คำแนะนำการใช้อุปกรณ์ Chromebook ระบบการบริหารจัดการอุปกรณ์ และแพลตฟอร์มต่างๆ ที่เหมาะสมกับการเรียนการสอนตามแนวที่ประสบความสำเร็จของประเทศต่างๆ ทั่วโลก

- การทำโครงการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาประสบการณ์การเรียนรู้ของนักเรียน คุณภาพการออกแบบการเรียนการสอน และการพัฒนาฐานข้อมูลทางการศึกษา

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ Google for Education ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของกระทรวงศึกษาธิการในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพและความทันสมัยให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษา Anywhere Anytime ของกระทรวงฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยี AI มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนรู้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้  กระทรวงฯ ได้จัดทำแนวทางการใช้ AI ในการศึกษาฉบับชั่วคราวเพื่อเป็นแนวทางให้บุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงฯ ในการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม ปลอดภัยและมีจริยธรรม”

นางสาวแจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับงานในวันนี้ ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและ Google ในการพัฒนาการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมทั้งโครงการขยายผลความร่วมมือดังกล่าว  ทั้งนี้ เราเชื่อว่าการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของโอกาสและความเท่าเทียม เรามุ่งมั่นที่จะนำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดมาให้บริการในไทย พร้อมทั้งช่วยพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่เยาวชน โดยเราเชื่อมั่นว่าการประกาศความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในวันนี้จะช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของการศึกษาไทย และช่วยให้กระทรวงฯ บรรลุเป้าหมายตามนโยบาย Anywhere Anytime ได้อย่างสมบูรณ์”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Google ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาไทยผ่านผลิตภัณฑ์ด้านการศึกษาที่หลากหลายของ Google เช่น แพลตฟอร์ม Google Workspace for Education โดยเฉพาะ  Google Classroom ซึ่งเป็นระบบจัดการการเรียนการสอนที่ได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ยังมีอุปกรณ์ที่ออกแบบให้เหมาะสมสำหรับการเรียนการสอน เช่น Chromebook ซึ่งจากรายงานของ Futuresource พบว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับการศึกษา K-12 ที่มีความนิยมสูงสุดในโลกตั้งแต่ปี 2564 และจากข้อมูลล่าสุด Chromebook เป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานสูงสุดในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น นอกจากนี้ Google for Education ยังมุ่งยกระดับทักษะครูผู้สอนให้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีหลักสูตรและการสอบวัดระดับ รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม