ทส. พร้อมเดินหน้า "กรมโลกร้อน" รอประกาศพระราชกฤษฎีกา

24 มิ.ย. 2566 | 20:40 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2566 | 20:42 น.

ปลัด ทส. เผย ผลการประชุมปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานราชการ ระบุหลังประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อ "กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม" เป็น "กรมโลกร้อน" พร้อมเสนอประกาศกฎหมายอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องโดยทันทีเพื่อทำงานต่อเนื่องไม่เกิดสุญญากาศ

24 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประชุมการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของหน่วยงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเพื่อติดตามการดำเนินงานการปรับปรุงโครงสร้างของส่วนราชการในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นั้น 

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมเรื่องการจัดตั้ง "กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม" หรือ "กรมโลกร้อน" สู่การเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากความพร้อมด้านแผนงานและงบประมาณตามภารกิจใหม่ที่จะมีความเข้มข้นในการทำงานมากขึ้นแล้วยังต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ที่ต้องมีการเสริมศักยภาพให้กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน

รวมถึงสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ให้มีความรู้ความเข้าใจและพร้อมขับเคลื่อนภารกิจของหน่วยงานไปสู่เป้าหมายของประเทศได้

ทั้งนี้ เมื่อมีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อ "กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม" เป็น "กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม" เมื่อใด ต้องพร้อมเสนอประกาศกฎหมายอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องโดยทันทีเพื่อให้การดำเนินงานเกิดความต่อเนื่องไร้สุญญากาศ

ที่สำคัญ คือ ต้องมีการสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจไปสู่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงบทบาทใหม่ของหน่วยงาน และตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นปัญหาสำคัญในระดับโลก ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการดำเนินการป้องกันและแก้ไข 

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยพบว่า ประชาชนร้อยละ 90 เห็นด้วยกับการจัดตั้งกรมตามภารกิจใหม่นี้