จากกรณีมีนักลงทุนชาวจีนซื้อคอนโดมิเนียมในไทยปล่อยเช่ารายวัน นอกจากขัดกฎหมายแล้วยัง ส่งผลกระทบผู้อยู่อาศัยในอาคาคาร ล่าสุดกรุงเทพมหานครไม่นิ่งนอนใจเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพร้อมมาตรการที่เข้มงวด เมื่อวันที่27กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวพบกลุ่มทุนจีนซื้อคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง อาทิ สุขุมวิท สาทร โดยมีการปล่อยเช่ารายวันให้นักท่องเที่ยว เข้ามาพักและสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกบ้านที่อาศัยอยู่ ซึ่งการปล่อยเช่าดังกล่าวไม่สามารถเอากุญแจฝากไว้ที่นิติบุคคลของคอนโดฯ ได้ เพราะเข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงเลี่ยงด้วยการนำกุญแจห้องใส่ไว้ในตัวล็อก แล้วเอาไปตั้งไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้กับคอนโดฯ จากนั้นจะบอกพิกัดและรหัสให้กับผู้เช่ามาหยิบกุญแจไป
ทั้งนี้ กทม. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ตามที่เป็นข่าวและได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าว โดย สำนักงานเขตสาทร ลงพื้นที่ตรวจคอนโดมิเนียม บริเวณ สาทร-เจริญราษฎร์ ถนนจันทน์ ร่วมกับ สน.ยานนาวา
เบื้องต้นเขตได้กำชับกับนิติบุคคลคอนโดฯ ให้ช่วยดูแล ห้ามปล่อยเช่าในลักษณะรายวัน ด้านสำนักงานเขตคลองเตย ลงพื้นที่บริเวณซอยสุขุมวิท 42 ซึ่งมีรายงานว่าพบตู้กุญแจใกล้คอนโดฯ ในลักษณะปล่อยเช่า จากการตรวจสอบพบตู้ 1 จุด ส่วนบริเวณอื่นไม่พบตามประเด็นข่าว ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือประสานสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาพระโขนง ตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ และได้มอบหมายฝ่ายเทศกิจกวดขัน ในบริเวณดังกล่าว
โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า การปล่อยเช่าห้องพักหรือคอนโดมิเนียมแบบรายวันถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยกรุงเทพมหานครมีแนวทางดำเนินการแก้ปัญหากรณีกลุ่มธุรกิจซื้อคอนโดฯ แล้วนำกุญแจไปซ่อนไว้ตามที่สาธารณะเพื่อปล่อยเช่ารายวัน
1. บังคับใช้กฎหมายโรงแรม ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าของห้องที่ปล่อยเช่ารายวันโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547 ซึ่งมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท และปรับรายวัน 10,000 บาท
2. ตรวจสอบและกวดขันพื้นที่ เจ้าหน้าที่เขตและตำรวจร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ที่มีการปล่อยเช่ารายวันผิดกฎหมาย และเก็บกุญแจหรือคีย์การ์ดที่ถูกซ่อนไว้ในที่สาธารณะ
3. ประสานงานกับนิติบุคคลอาคารชุด ให้ทางนิติบุคคลเฝ้าระวังและรายงานพฤติกรรมต้องสงสัย รวมถึงเข้มงวดเรื่องข้อบังคับห้ามปล่อยเช่ารายวัน
4. ให้ความรู้ประชาชนและผู้พักอาศัย ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับข้อกฎหมายและผลกระทบของการปล่อยเช่าผิดกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนร่วมกันสอดส่อง
5. เข้มงวดแพลตฟอร์มออนไลน์ ประสานงานกับแพลตฟอร์มให้เช่าที่พัก เช่น Airbnb เพื่อควบคุมและปิดกั้นการประกาศให้เช่าห้องที่ไม่ได้รับอนุญาต
6. ออกมาตรการควบคุมการใช้พื้นที่สาธารณะ หากพบการซ่อนกุญแจหรือติดตั้งกล่องเก็บกุญแจผิดกฎหมายในพื้นที่สาธารณะ ให้ดำเนินการรื้อถอนและแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการใช้พื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
“มาตรการเหล่านี้จะช่วยลดปัญหาการปล่อยเช่ารายวันผิดกฎหมายและรักษาความปลอดภัยของชุมชน” โฆษกของ กทม. กล่าว